OKR vs KPI ต่างกันอย่างไร? เครื่องมือไหนตอบโจทย์องค์กรคุณ

November 9, 2025
Disrupt Team
OKR vs KPI
OKR vs KPI

ในโลกธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน การวัดผลการทำงานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อกำหนดทิศทางองค์กร คุณอาจเคยได้ยินคำว่า OKR vs KPI ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดผลที่ได้รับความนิยม แต่รู้หรือไม่ว่าทั้งสองอย่างมีความแตกต่างและใช้งานได้ในสถานการณ์ที่ต่างกัน บทความนี้จะเจาะลึกว่า OKR vs KPI คืออะไร และจะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเครื่องมือใดที่เหมาะกับองค์กรของคุณ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความเติบโตที่ยั่งยืน

 Key takeaway

  • OKR เน้นการตั้งเป้าหมายที่ ท้าทาย (Aspirational) และมุ่งเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด มักใช้ในการแก้ปัญหาใหม่ ๆ หรือเรื่องที่ต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลง
  • KPI เน้นการวัดผล ประสิทธิภาพการดำเนินงาน (Operational) ที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว เพื่อรักษามาตรฐานและตรวจสอบว่างานประจำวันเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
  • OKR vs KPI ไม่ได้เป็นทางเลือกที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถ ใช้ร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย OKR คือตัวกำหนดทิศทางใหม่ ๆ และ KPI คือตัวติดตามสุขภาพของธุรกิจ

OKR vs KPI คืออะไร? เครื่องมือวัดผลที่องค์กรควรรู้จัก

OKR KPI คืออะไร

ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีเครื่องมือวัดผลที่แม่นยำจะช่วยให้องค์กรเติบโตได้อย่างถูกทิศทาง คำว่า OKR vs KPI มักถูกนำมาเปรียบเทียบกันบ่อยครั้ง เพราะต่างก็เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและประเมินผลการทำงาน เพื่อให้เข้าใจว่า OKR และ KPI ทั้งสองอย่างมีความหมายแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจในแต่ละเครื่องมืออย่างละเอียด

OKR คืออะไร?

OKR หรือ Objectives and Key Results คือระบบการบริหารที่มุ่งเน้นการตั้งเป้าหมายและการติดตามผลสำหรับเรื่องที่สำคัญเท่านั้น สิ่งที่โดดเด่นของ OKR คือการขับเคลื่อนด้วยแรงจูงใจภายในเป็นหลัก เป้าหมายสูงสุดของ OKR คือการเพิ่มแรงจูงใจภายในของพนักงาน และทำให้พวกเขามีความสุขกับการทำงานมากขึ้น

  • Objectives (O) - วัตถุประสงค์หลักที่เป็นตัวกำหนดจุดมุ่งหมายขององค์กรหรือหน่วยงาน
  • Key Results (KRs) - ผลลัพธ์หลักที่สามารถวัดผลได้ ซึ่งจะช่วยให้รู้ว่าเราบรรลุวัตถุประสงค์นั้นได้อย่างไร

โดยทั่วไปแล้ว OKR จะถูกนำไปใช้กับปัญหาที่ใหญ่และท้าทาย โดยจะใช้เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น เพราะถ้าทุกอย่างสำคัญหมดก็ไม่จำเป็นต้องใช้ OKR

KPI คืออะไร

KPI ย่อมาจาก Key Performance Indicator ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดที่ใช้วัดประสิทธิภาพการทำงานที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว การตั้งเป้าหมายด้วย KPI มักจะมาจากผู้บริหารในลักษณะ Top-Down และจะเน้นการวัดผลเพื่อประสิทธิภาพการดำเนินงานเป็นหลัก

โดยทั่วไปแล้ว KPI มักจะเชื่อมโยงกับแรงจูงใจภายนอก เช่น การขึ้นเงินเดือนหรือโบนัส ซึ่งอาจทำให้พนักงานมุ่งเน้นไปที่การทำตามเป้าหมายเพื่อผลตอบแทนเท่านั้น

การทำความเข้าใจความหมายและวัตถุประสงค์ของทั้งสองเครื่องมือนี้ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ ก่อนจะนำไปใช้ในการบริหาร Performance Management คือ อย่างมีประสิทธิภาพในองค์กรของคุณ

OKR vs KPI ต่างกันอย่างไร? 5 ข้อเปรียบเทียบที่คุณต้องรู้

เมื่อทราบความหมายของแต่ละเครื่องมือแล้ว หลายคนยังคงสงสัยว่า OKR vs KPI คือเครื่องมือเดียวกันหรือไม่ หรือ KPI vs OKR คืออะไรที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คำตอบคือแม้จะใช้ในการวัดผลเหมือนกัน แต่ทั้งสองก็มีวัตถุประสงค์และวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ลองมาดู 5 ข้อเปรียบเทียบหลักที่จะช่วยให้คุณเห็นภาพความต่างระหว่าง OKR vs KPI ได้อย่างชัดเจน

วัตถุประสงค์การใช้งาน

OKR

KPI

เน้นการเติบโต การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หรือการแก้ปัญหาที่ท้าทาย

เน้นการรักษามาตรฐาน การวัดผลงานประจำวัน และการตรวจสอบสุขภาพของธุรกิจ

 

  • OKR มีไว้เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่สำคัญต่ออนาคตขององค์กร มักจะถามว่า "เราจะไปถึงจุดที่เราไม่เคยไปได้อย่างไร?" 
  • KPI มีไว้เพื่อวัดผลว่าสิ่งที่ทำอยู่มีประสิทธิภาพเพียงใด มักจะถามว่า "เราทำสิ่งที่ต้องทำได้ดีแค่ไหน?"

การกำหนดเป้าหมาย

OKR มักจะถูกกำหนดจากล่างขึ้นบน (Bottom-Up) หรือมีการร่วมมือกันระหว่างทีมและผู้บริหาร เพื่อสร้างความผูกพัน (Commitment) และแรงจูงใจในการทำงาน ขณะที่ KPI ส่วนใหญ่มักจะถูกกำหนดจากบนลงล่าง (Top-Down) โดยผู้บริหารเป็นผู้กำหนดเป้าหมายและมอบหมายให้พนักงานไปดำเนินการ

นอกจากนี้ การตั้งเป้าหมายใน OKR จะต้องท้าทายและเป็นไปในเชิงรุก (Aggressive) ในขณะที่การตั้งเป้าหมายด้วย KPI มักเป็นเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง (Achievable) และต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ Smart Goal

การตั้งเป้าหมาย

OKR

KPI

Aspirational Goal - เป้าหมายที่ท้าทายสูง ทำสำเร็จได้ 70% ถือว่ายอดเยี่ยม

Committed Goal - เป้าหมายที่ต้องทำสำเร็จ 100%

 

  • OKR คือ เครื่องมือที่ยอมรับความล้มเหลวในการทำตามเป้าหมาย เพราะความตั้งใจคือการผลักดันขีดจำกัดเดิม ๆ 
  • KPI คือ เครื่องมือที่เน้นความสำเร็จตามตัวเลขที่กำหนดไว้ เพื่อให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด

การได้รับผลตอบแทน

OKR ส่วนใหญ่มักจะไม่ถูกเชื่อมโยงโดยตรงกับการขึ้นเงินเดือนหรือโบนัส เพื่อให้พนักงานกล้าตั้งเป้าหมายที่ท้าทายและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ โดยไม่มีความกดดันจากเรื่องผลตอบแทนภายนอก

ในขณะที่ KPI มักจะถูกเชื่อมโยงโดยตรงกับผลตอบแทนภายนอก เช่น โบนัสประจำปี การประเมินผลงาน หรือการขึ้นเงินเดือน เนื่องจากเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการดำเนินงานประจำวัน

ระยะเวลาการติดตามผล

OKR มักจะมีการติดตามผลในระยะสั้น เช่น รายไตรมาส (Quarterly) เพื่อให้องค์กรมีความคล่องตัวและสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว

KPI มักจะมีการติดตามผลในระยะยาว เช่น รายปี (Annually) หรือรายครึ่งปี เพื่อวัดผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอและรักษาเสถียรภาพของธุรกิจ

OKR vs KPI เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสมกับองค์กร?

OKR vs KPI examples

หลายองค์กรเข้าใจผิดว่าต้องเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว OKR vs KPI สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับ "วัตถุประสงค์" ของสิ่งที่ต้องการวัดผลในขณะนั้น

สถานการณ์

ควรใช้เครื่องมือใด

เหตุผล

ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่

OKR

เน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดดและเป้าหมายที่ท้าทาย

ต้องการปรับปรุงอัตราการรักษาลูกค้า (Retention Rate)

KPI

วัดประสิทธิภาพของกระบวนการที่มีอยู่แล้วเพื่อรักษามาตรฐาน

ต้องการยกระดับความสามารถของพนักงาน

OKR/KPI ร่วมกัน

OKR ใช้ตั้งเป้าหมายด้านการเรียนรู้ทักษะใหม่ เช่น Upskill ส่วน KPI วัดผลการเข้าร่วมอบรม

ต้องการบริหารการเงินและการดำเนินงานประจำ

KPI

เพื่อติดตามสุขภาพทางการเงิน และตัวชี้วัดที่จำเป็นในการอยู่รอด

แนวคิดในการบูรณาการ OKR vs KPI

  • OKR เป็นตัวกำหนดทิศทาง, KPI เป็นตัววัดสุขภาพ: ให้ OKR คือ "เข็มทิศ" ชี้ไปสู่สิ่งที่องค์กรต้องการเปลี่ยนแปลงหรือเติบโตอย่างก้าวกระโดด และให้ KPI คือ "มาตรวัด" ของสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วให้มีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ธุรกิจหยุดชะงัก
  • ใช้ OKR ขับเคลื่อน KPI ที่ต่ำกว่าเกณฑ์: หาก KPI ตัวใดตัวหนึ่งอยู่ในระดับอันตรายหรือต่ำกว่ามาตรฐาน (เช่น อัตราความผิดพลาดสูง) คุณสามารถตั้ง OKR เพื่อแก้ปัญหานั้นโดยเฉพาะได้
        ๏   ตัวอย่าง KPI: อัตราความผิดพลาดในการผลิตไม่เกิน 2% (ปัจจุบัน 5%)
        ๏   OKR: ลดอัตราความผิดพลาดในการผลิตให้เหลือ 2% ภายในไตรมาสหน้า
  • ใช้ OKR ขยายผลลัพธ์ของ KPI: หาก KPI ของคุณดีอยู่แล้ว คุณสามารถตั้ง OKR ที่ท้าทายเพื่อผลักดันให้เกิดผลลัพธ์ที่สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างไม่เคยมีมาก่อน
  • ให้ OKR นำหน้าเสมอ: สำหรับองค์กรที่ต้องการความคล่องตัวและนวัตกรรม ควรให้ OKR เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนกลยุทธ์สำคัญ ๆ ในแต่ละไตรมาส

OKR vs KPI ตัวอย่างการใช้งานจริง เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เหนือกว่า

การใช้ OKR vs KPI ร่วมกันทำให้องค์กรมีมุมมองที่สมดุล ทั้งในด้านการรักษามาตรฐาน (KPI) และการสร้างสรรค์นวัตกรรม (OKR) เพื่อสร้างการเติบโตใหม่ ๆ นี่คือตัวอย่างการใช้งานจริงในทีม Marketing

เป้าหมาย

วัตถุประสงค์

เครื่องมือที่ใช้

Growth (การเติบโตใหม่)

สร้างฐานลูกค้าใหม่ในตลาด E-commerce

OKR

Health (สุขภาพธุรกิจ)

รักษามาตรฐานประสิทธิภาพของช่องทางเดิม

KPI

 

 

ตัวอย่าง OKR (มุ่งเน้นการเติบโต)

  • Objective: สร้างการรับรู้และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ในภาคอีสาน
  • Key Result 1: เพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์จากช่องทาง Organic Search ในกลุ่มลูกค้าภาคอีสานจาก 0 เป็น 10,000 ครั้งต่อเดือน
  • Key Result 2: เพิ่มอัตราการลงทะเบียนทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จากพื้นที่ดังกล่าวจาก 0 เป็น 500 ราย
  • Key Result 3: ทีมงาน Soft Skills คือ มีคะแนนความพึงพอใจด้านการทำงานร่วมกันสูงกว่า 90%

ตัวอย่าง KPI (มุ่งเน้นการดำเนินงานประจำ)

  • KPI: อัตรา Click-Through Rate (CTR) ของแคมเปญโฆษณา Facebook อยู่ที่ ≥3%
  • KPI: งบประมาณโฆษณาที่ใช้ต่อวันต้องไม่เกิน $\$$ 500
  • KPI: เว็บไซต์มี Uptime ≥ 99.9%
  • KPI: การทำงานของทีม HR ต้องรวดเร็วขึ้นด้วย

จะเห็นได้ว่า OKR มุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่ "เป็นไปไม่ได้" แต่ "ท้าทาย" และมีขอบเขตที่ชัดเจน ส่วน KPI คือ ตัวเลขที่ต้องรักษาไว้เพื่อคงประสิทธิภาพการดำเนินงานปัจจุบัน

สรุป OKR vs KPI และเส้นทางสู่การเติบโตขององค์กร

OKR vs KPI ไม่ใช่คู่แข่ง แต่เป็นเครื่องมือเสริมกันที่จำเป็นต่อความสำเร็จขององค์กรในยุคปัจจุบัน หากคุณต้องการวัดผลการทำงานประจำวันอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาเสถียรภาพ และต้องการตัวชี้วัดว่าคุณกำลังอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น KPI คือคำตอบของคุณ

แต่ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ผลักดันขีดจำกัดของทีม และสร้างแรงจูงใจภายในให้พนักงานกล้าตั้งเป้าหมายที่ท้าทาย OKR คือเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการนำพาองค์กรไปสู่จุดที่เหนือกว่า

Disrupt เข้าใจดีว่าการนำเครื่องมือเหล่านี้มาใช้ในองค์กรไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงมีหลักสูตรและโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรของคุณเข้าใจและนำ OKR และ KPI ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระดับผู้บริหารจนถึงพนักงาน เพื่อให้เกิดการวัดผลที่สอดคล้อง โปร่งใส และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน หากคุณต้องการยกระดับการบริหารผลงานขององค์กร หรือต้องการสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ชัดเจน อย่าพลาดโปรแกรมการเรียนรู้ของเรา

สามารถปรึกษาหลักสูตรที่เหมาะกับองค์กรของคุณได้ที่

Update ความรู้จาก Disrupt ได้ที่ช่องทาง