เมื่อ “ผู้นำแห่งอนาคต” คือหัวใจหลักในการ Transform องค์กร

เพราะอนาคตของเมื่อวานก็คือวันนี้ องค์กรจะเตรียมพร้อมอย่างไรเมื่อการเปลี่ยนแปลงมาไม่ทันตั้งตัว? ผู้นำและคนในองค์กร คือหัวใจสำคัญในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นและพาองค์กรไปสู่อนาคตได้

‍Nokia, One Billion Customers —
Can Anyone Catch the Cell Phone KING? - Forbes Magazine 2007 

ย้อนไปเกือบ 20 ปีที่แล้ว Nokia สร้างปรากฏการณ์ระดับโลกในการเป็นผู้นำแบรนด์โทรศัพท์มือถือ และไม่มีใครคิดว่า Nokia จะถูกโค่นบัลลังก์ลงได้ง่าย ๆ เพราะมีฐานผู้ใช้งานกว่า 1,000 ล้านคน 

แต่เมื่อเวลาผ่านไปเกือบ 2 ทศวรรษ หากพูดถึงโทรศัพท์มือถือก็ไม่มีใครนึกถึง Nokia อีกต่อไป สาเหตุหลัก ๆ ในการที่ Nokia ไม่สามารถ transform และยืนได้ต่อในตลาดคือ การที่ผู้บริหารเห็นภาพขององค์กรและการเปลี่ยนแปลงไม่ตรงกัน การที่พนักงานไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง (ทั้งภายในและภายนอกองค์กร) และการขาดการสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ (Innovation) - อย่างไรก็ตาม Nokia ในปัจจุบันก็ไม่ได้ปิดตัว แต่เปลี่ยนไปโฟกัสที่การทำธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมแทน

ในวันนี้ Disrupt จะมาแชร์ 5 ลักษณะของผู้นำแห่งอนาคต (Futuristic Leader) ที่พร้อมพาองค์กรลงสนามในสงคราม Transformation 🤖 

1. Business Acumen & Innovation - มีไหวพริบทางธุรกิจและพร้อมสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

รู้จักธุรกิจ? รู้จักลูกค้า? อาจไม่เพียงพอว่ามีไหวพริบทางธุรกิจ เพราะจริง ๆ แล้วไหวพริบทางธุรกิจคือการเข้าใจธุรกิจและสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปร่วม ‘ตัดสินใจ’ ในสถานการณ์หรือปัญหาต่าง ๆ

93% ของกลุ่มผู้บริหารมีช่องว่างของทักษะ (Skill Gap) ที่ทำให้การ Transform องค์กรไม่สำเร็จอย่างที่ตั้งเป้า และ 42% กล่าวว่า การมีไหวพริบทางธุรกิจ (Business Acumen) ถือเป็นช่องว่างที่ใหญ่ที่สุด

หัวหน้าที่มีไหวพริบและความคมคายทางธุรกิจ จะสามารถทำความเข้าใจและคิดวิธีการแก้ปัญหาให้กับสถานการณ์ธุรกิจทีซับซ้อนได้ อีกทั้งยังเปรียบเสมือนผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจที่สร้างความไว้วางใจและน่าเชื่อถือให้กับลูกทีม และสำคัญที่สุดคือการที่สามารถสร้างผลกระทบและการเปลี่ยนแปลง (Transformation) ได้ในระดับองค์กรจากความเข้าใจทางธุรกิจและวิเคราะห์อย่างรอบด้าน

‍

2. Learning Agility - มีสายเลือดแห่งการเรียนรู้ไหลเวียนเป็นตัวตน

เมื่อโลกธุรกิจถูกดิสรัปท์ (Disruption) และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ‘Learning Agility’ หรือความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ในฐานะหัวหน้าหรือผู้นำองค์กร การมี Learning Agility จะช่วยให้..

• คิดและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ จากการที่ไม่ได้มีความคิดที่ยึดติดกับสิ่งเดิม ๆ และพร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นคนเหล่านี้จะมีการคิดวิธีแก้ปัญหาในรูปแบบใหม่ ๆ ให้แก่ทีมและองค์กร
• เติบโตในการทำงานได้อย่างก้าวกระโดด จากการรู้จุดที่ต้องพัฒนาของตัวเองและเปิดใจเรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้หรือทักษะแห่งอนาคตต่าง ๆ จะช่วยให้สามารถพัฒนาจุดอ่อนเหล่านั้นและเปลี่ยนไปเป็นหัวหน้าที่เต็มเปี่ยมด้วยความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
• สร้างผลกระทบเชิงบวกและ Win-Win กับทีมและองค์กร การเป็นคนที่เรียนรู้เร็วเป็นความสามารถที่ทุกองค์กรมองหาในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และยังสามารถนำทีมแม้ในยามที่ไม่รู้ทิศทาง

‍

3. D.A.T. - พร้อมไปด้วยทักษะแห่งโลกอนาคต อย่าง Data, AI, และ Technology 

D.A.T. (แด๊ท!) เป็นคำศัพท์ที่ชาวดิสรัปท์เรียกสำหรับ Data, AI, และ Technology
ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเป็นอนาคตไกล ๆ แต่ทุกวันนี้อยู่ใกล้มือจนหลีกเลี่ยงไม่ได้

การเป็นผู้นำแห่งอนาคต อาจไม่ได้หมายถึงต้องเขียนโค้ดเป็นหรือสร้างหุ่นยนต์ให้ได้ซะทีเดียว แต่การเป็นผู้นำแห่งอนาคตคือการมีความรู้ความเข้าใจของ D.A.T. (ในแง่เครื่องมือ การประยุกต์ใช้และข้อจำกัด) และสามารถนำไปใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพงานของทีมและองค์กรได้ เช่น หัวหน้าจะต้องมีความเข้าใจเครื่องมือ D.A.T. ต่าง ๆ ไปพร้อม ๆ กับเข้าใจศักยภาพของลูกทีมเพื่อสร้างทีม D.A.T. ที่ยังมีหัวใจและสร้างสรรค์ผลลัพธ์ทางธุรกิจได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

‍

4. Team Empowerment - จุดไฟให้ทีมมีพลังให้ทุกคนขับเคลื่อนไปยังเป้าหมายเดียวกัน

กว่า 80% ของปัญหาภายในทีมเกิดจากการเห็นภาพของเป้าหมายไม่ตรงกัน

มองเห็นเป้าหมายเดียวกัน ก็เหมือนเข้าเส้นชัยไปแล้วครึ่งนึง เมื่อการมีเป้าหมายร่วมกันคือเชื้อเพลิงชั้นยอดให้กับคนในทีม จากโมเดลสุดคลาสสิคอย่าง the GRPI model of Team Development (Goals, Roles, Processes, and Interaction) มองว่า
‍‘การพัฒนาทีม’ หรือ ‘การสร้างทีม’ เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ (Productivity) และประสิทธิผล (Efficiency) ของงานที่ทำ อีกทั้งยังช่วยลดระยะเวลาในการสร้างทีมและนำพาทีมไปสู่การเป็นทีมที่ ‘High-performing’ ได้เร็วขึ้น

GRPI Model เป็นโมเดลสำหรับ Team Development ที่ประกอบไปด้วย 

• Goal: เป้าหมาย ที่ทุกคนในทีมต้องมีร่วมกัน
• Roles: บทบาทและความรับผิดชอบของแต่ละคนในทีม
• Procedures: กระบวนการในการทำงานที่ต้องดำเนินการที่ทีมต้องทำความเข้าใจและปฏิบัติได้จริง
• Interpersonal relationships: ความสัมพันธ์ของคนในทีมที่พัฒนาร่วมกันผ่านการสื่อสารและการสร้างความไว้ใจระหว่างกัน 

ในยุค Transformation ตอนนี้ หัวหน้าเปรียบเสมือนกัปตันเรือที่จะสร้างบุคคลากรในทีมให้เชื่อมใจถึงกันและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับธุรกิจและองค์กรท่ามกลางมรสุมความเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจได้

‍

5. Sustainability Mindset - มองกว้างถึงโลก มองไกลถึงอนาคต

Profit - People - Planet เมื่อธุรกิจ คน และโลกแยกกันไม่ขาด ทุก ๆ การขยับตัวขององค์กรส่งผลกระทบต่อโลก ทำให้หัวหน้ายุคใหม่ต้องมองให้ไกลกว่ากรอบองค์กรตัวเอง 

การทำธุรกิจในปัจจุบัน นอกจากเรื่องของผลประกอบการทางธุรกิจ (Profit) ผู้นำจะต้องมองให้ไกลไปถึงผลกระทบทางสังคม (People) และสิ่งแวดล้อม (Planet) และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นต้นทุนทางธุรกิจเช่นเดียวกับต้นทุนอื่น ๆ 

กว่า 90% ของผู้นำเชื่อว่าความยั่งยืนนั้นสำคัญแต่มีเพียง 60% ขององค์กรเท่านั้นที่มีกลยุทธด้านความยั่งยืน (World Economic Forum)

เมื่อกลยุทธทางความยั่งยืน (Sustainability) ไม่ใช่สิ่งที่ควรมี แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำเลยทันที ไม่ว่าจะมาจาก 2030 UN Agenda ทิศทางนักลงทุน พฤติกรรมของกลุ่มผู้บริโภค นอกจากนั้นแล้ว การมีกลยุทธทางสิ่งแวดล้อมจะช่วยให้องค์กรเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลให้กับองค์กร ที่สืบเนื่องมาจากต้นทุนการผลิตที่ลดลงจากการมีกลยุทธทางความยั่งยืน นอกจากนั้น องค์กรยังสามารถดึงดูดพนักงานที่มีความสามารถได้เพิ่มขึ้นในยุคปัจจุบันที่คนรุ่นใหม่ให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและคิดเป็น 1 ในปัจจัยในการเลือกงาน

ที่ Disrupt เราเชื่อว่าทุกคนมีพลังอยู่ในตัวและเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่าที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้แก่องค์กร หากได้รับการพัฒนาที่ถูกต้องผ่านการเรียนรู้ที่นำไปใช้ได้จริงและประสบการณ์จากผู้มีประสบการณ์ชั้นนำในแวดวงธุรกิจ

Disrupt Technology Venture ผู้เชี่ยวชาญด้าน Transformation, Innovation, และ Leadership สำหรับองค์กร เพื่อพัฒนา “คน” ให้มีความรู้ และทักษะที่พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในโลกแห่งอนาคต

‍

สนใจสอบถามรายละเอียด

โทร: 083-769-8763 (คุณแพรว), 061-020-7826 (คุณปานวาด), 092-247-6373 (คุณหยก)

Line: @disruptignite 

Email: all@disruptignite.com 

Website: https://www.disruptignite.com/corporateprogram 

‍

‍

ขอบคุณบทความดี ๆ จาก

• ย้อนรอยอาณาจักร Nokia จากโรงงานกระดาษสู่โทรคมนาคมยักษ์ใหญ่
• Nokia – The Rise, Fall & Transformation of a Cell Phone King
• What business acumen is and 9 ways to develop it
• The GRPI Model of Team Effectiveness: Explained
• Why sustainability is crucial for corporate strategy
• Triple Bottom Line

‍