Upskill Reskill ยกระดับองค์กร เพื่อความอยู่รอดในอนาคต

ในโลกธุรกิจที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง การพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถที่ตอบโจทย์อนาคตจึงไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นภารกิจเร่งด่วนที่ทุกองค์กรต้องปรับตัวตามให้ทันโลก โดยการ Upskill และ Reskill คือกลยุทธ์สำคัญที่องค์กรชั้นนำทั่วโลกใช้เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและตลาดแรงงาน
Upskill คือ การยกระดับความเชี่ยวชาญในงานเดิม ในขณะที่ Reskill คือ การสร้างทักษะใหม่เพื่อเปลี่ยนบทบาทอย่างสิ้นเชิง การทำความเข้าใจในความหมายของ Reskill และ Upskill จึงเป็นรากฐานสำคัญในการวางแผนพัฒนาบุคลากรให้ทันต่อยุคสมัย
Highlight
- Upskill คือ การพัฒนาทักษะที่มีอยู่ให้เชี่ยวชาญขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในบทบาทเดิม
- Reskill คือ การเรียนรู้ทักษะใหม่ทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนไปรับบทบาทหรือตำแหน่งงานใหม่
- องค์กรต้องใช้ Upskill และ Reskill ควบคู่กันเพื่อรับมือ Digital Disruption โดยเน้นการพัฒนาทักษะด้าน Data, AI และ Adaptability เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจ
Upskill คือ กระบวนการพัฒนาและเพิ่มพูนทักษะที่มีอยู่เดิมของพนักงานให้มีความลึกซึ้งและเชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถรับผิดชอบงานที่ซับซ้อนขึ้น หรือใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทบาทปัจจุบัน Upskill หมายถึง การเติบโตในแนวตั้ง (Vertical Growth) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถหลักขององค์กร
ตัวอย่างเช่น พนักงานฝ่ายการตลาดที่เดิมมีทักษะการสื่อสารและทักษะการตลาดที่ดีอยู่แล้ว ก็อาจจะต้อง Upskilling ทักษะด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) และการใช้ AI เข้ามาช่วยในการทำแคมเปญให้แม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทีม โดยการจัดอบรมพนักงานแบบเฉพาะทางจึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญที่หลายบริษัทเลือกใช้
Reskill คือ กระบวนการฝึกฝนทักษะ “ชุดใหม่” ทั้งหมด เพื่อเตรียมความพร้อมให้พนักงานย้ายไปรับบทบาทหรือตำแหน่งงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานเดิมโดยสิ้นเชิง โดย Reskill หมายถึง การเปลี่ยนแปลงในแนวนอน (Horizontal Shift) ซึ่งมักเกิดขึ้นเมื่อตำแหน่งงานเดิมถูกแทนที่ด้วย Technology ต่าง ๆ (เช่น AI, Automation) หรือเมื่อองค์กรต้องการย้ายบุคลากรไปยังส่วนงานที่มีความต้องการสูงขึ้น
Reskill และ Upskill คือ กลยุทธ์ที่ต้องทำควบคู่กัน โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากตำแหน่งเดิมถูกท้าทายด้วยการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ องค์กรจำเป็นต้องมีแผน Reskill เพื่อรักษาพนักงานที่มีความรู้และความเข้าใจในวัฒนธรรมองค์กรไว้ โดยการเปลี่ยนให้พนักงานไปทำหน้าที่ใหม่ที่เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงหรือความต้องการของตลาดแทน

การเติบโตของเทคโนโลยีดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนการทำงานแบบเดิม
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือระบบอัตโนมัติ (Automation) ได้เข้ามาแทนที่งานที่ต้องทำซ้ำ ๆ จำเจ ทำให้ทักษะเดิมบางอย่างหมดความสำคัญ เช่น งานเอกสาร งานจัดตารางประชุม ทำให้องค์กรจึงต้องมีแผน Reskill เพื่อเปลี่ยนพนักงานเหล่านั้นให้กลายเป็น “ผู้ใช้” เทคโนโลยีแทนที่จะถูกเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่
ความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไปมีผลกับทักษะต้องเปลี่ยนตามเช่นกัน
ตลาดแรงงานในปัจจุบันมีความต้องการทักษะด้านดิจิทัล, การวิเคราะห์ข้อมูล และทักษะมนุษย์ (Soft Skill) ที่ซับซ้อนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ทักษะ Adaptability หรือ การบริหารเวลา ส่งผลให้เกิดภาวะ Skill Gap ดังนั้นการทำ Upskilling จึงเป็นทางออกที่รวดเร็วและประหยัดกว่าการสรรหาบุคลากรที่มีทักษะเฉพาะด้านจากภายนอกที่อาจจะไม่เข้าบริบทหรืองานขององค์กรเท่าพนักงานปัจจุบัน
การสร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับตัวขององค์กร (Organizational Agility)
ในยุคที่ธุรกิจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน องค์กรที่ลงทุนในการ Upskill Reskill จะสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ (Business Model) และการทำงานของทีมได้อย่างรวดเร็ว (Agility) การสร้างบุคลากรที่มีชุดทักษะที่หลากหลาย (Multi-skilled Workforce) ทำให้องค์กรตอบสนองต่อวิกฤตและความต้องการของตลาดได้ทันท่วงทีในอนาคต
การพัฒนาบุคลากรด้วยแนวคิด Upskill Reskill คือการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว
- ลดอัตราการลาออก (Retention): พนักงานที่ได้รับการพัฒนาทักษะจะมีความรู้สึกว่าองค์กรให้ความสำคัญกับพนักงาน ทำให้มีความผูกพันและภักดีต่อองค์กรสูงขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการทำ Talent Management
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (Productivity): การ Upskill ช่วยให้พนักงานใช้เครื่องมือและเทคนิคใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น นำไปสู่ผลงานที่มีคุณภาพและรวดเร็วกว่าเดิม
- ลดต้นทุนการสรรหาบุคลากร (Recruitment Cost): การ Reskill พนักงานภายในองค์กรมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการสรรหาบุคลากรใหม่ที่มีทักษะเฉพาะทางจากตลาดภายนอก
- นำพาองค์กรไปสู่ Digital Transformation: การมีบุคลากรที่มีทักษะดิจิทัลที่เหมาะสมเป็นปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่การเป็นองค์กรแห่งอนาคต

องค์กรสามารถนำแนวคิด Upskill Reskill ไปประยุกต์ใช้เพื่อปิดช่องว่างทักษะและเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ดังนี้
1. ลงทุนในการพัฒนามนุษย์ ตั้งแต่ Assessment ไปจนถึง Continuous Upskilling และ Reskilling
การลงทุนต้องเริ่มต้นด้วยการประเมินทักษะปัจจุบัน (Skill Assessment) และกำหนดทักษะที่จำเป็นสำหรับตำแหน่งงานในอนาคต (Future Skills) จากนั้นจึงออกแบบเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Path) แบบเฉพาะบุคคล (Personalized) เพื่อให้การ Upskilling หรือ Reskilling เป็นไปตามความต้องการของธุรกิจอย่างแท้จริง
2. จัดฝึกอบรมที่มากกว่าการนั่งฟังบรรยาย
การจัด In House Training ในยุคใหม่ไม่ควรจำกัดอยู่แค่การบรรยาย แต่ควรมุ่งเน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง (Experiential Learning) เช่น การทำ Workshop, Hackathon หรือการหมุนเวียนงาน (Job Rotation) เพื่อให้พนักงานได้ใช้ทักษะใหม่ในการทำงานจริง (On-the-Job Training) และเกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
3. สร้างการรับรู้ให้กับพนักงาน เพื่อให้พร้อมเติบโตไปพร้อมกับองค์กร
ผู้บริหารต้องสื่อสารให้พนักงานทุกคนเข้าใจว่า Upskill Reskill Newskill คือ กลไกสำคัญสำหรับการเติบโตทั้งส่วนบุคคลและองค์กร การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้พนักงานกล้าที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ กล้าที่จะล้มเหลว และมองเห็นว่าการพัฒนาทักษะคือความรับผิดชอบร่วมกัน
แม้ว่าในปัจจุบัน คนจะพูดถึง Hard Skills และ Digital Skills ว่าเป็นทักษะที่ต้องเร่งพัฒนาในโลกตอนนี้เพื่อให้ตามทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น แต่มีหลากหลายสถาบัน (เช่น Harvard Business School) ที่บอกว่าทักษะ Soft Skills และ Human Skills คือสิ่งสำคัญในยุค AI & Digital โดยทักษะที่บุคลากรต้อง Upskill และ Reskill แบ่งออกเป็นกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้
1. Hard Skills / Digital Skills
- การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Literacy & Analytics): ความสามารถในการตีความและใช้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ
- ความรู้ด้าน AI และ Automation: เข้าใจหลักการทำงานและสามารถใช้เครื่องมือ AI ในงานประจำวันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
2. Soft Skills / Human Skills
- การคิดเชิงวิพากษ์และการแก้ปัญหาซับซ้อน (Critical Thinking & Complex Problem Solving): การคิดที่เป็นระบบระเบียบและสามารถมองหาจุดด้อยใน Argument ได้ ถือเป็นความสามารถที่ AI ไม่สามารถทำแทนได้ และเป็นแกนหลักในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นภายในองค์กร
- ความยืดหยุ่นและการปรับตัว (Adaptability & Agility): ความสามารถในการเรียนรู้และรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีและตลาด
- ความเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีมในยุคดิจิทัล: การนำทีมที่ทำงานจากระยะไกล (Remote Team) และการประสานงานข้ามสายงาน (Cross-functional Collaboration) ที่ต้องใช้ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
ในยุคที่ความเปลี่ยนแปลงคือความแน่นอนเดียวที่เหลืออยู่ การลงทุนใน Upskill Reskill จึงเป็นภารกิจหลักที่องค์กรยุคใหม่ต้องจัดเป็นวาระด่วน โดยการทำความเข้าใจ Concept ว่า Upskill คือการเติบโตในแนวลึก และ Reskill คือการขยายขีดความสามารถในแนวราบ จะช่วยให้องค์กรบริหารทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
หากองค์กรของคุณต้องการออกแบบแผนยุทธศาสตร์ในการ Upskill Reskill อย่างเป็นระบบ เพื่อให้บุคลากรมีทักษะที่พร้อมสำหรับอนาคตและสามารถนำการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงมาสู่ธุรกิจ Disrupt Corporate Program มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบหลักสูตร Upskilling และ Reskilling ที่เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง (Experiential Learning) และการวิเคราะห์กรณีศึกษาทางธุรกิจเฉพาะด้าน เพื่อช่วยให้องค์กรของคุณปิดช่องว่างทักษะได้อย่างรวดเร็วและมีผลลัพธ์ที่วัดผลได้จริง
🔥 กรอกข้อมูลและรอการติดต่อกลับจาก Program Manager ได้เลย: Corporate Program