Account Manager คืออะไร ทำงานอย่างไร พร้อมทักษะที่ต้องมี

ในโลกธุรกิจปัจจุบัน การมีคนที่ดูแล Account Manager คือ ผู้ที่คอยเชื่อมระหว่างบริษัทกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้โปรเจกต์เดินหน้าได้ราบรื่นและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวได้อย่างมั่นคง
ตำแหน่งนี้ไม่ใช่แค่ประสานงานหรือส่งงาน แต่ยังรวมถึง Key Account Manager, Account Management, และการบริหารโปรเจกต์ให้ตรงตามเป้าหมาย
Highlight
- Account Manager คือ ตำแหน่งที่ดูแลความสัมพันธ์กับลูกค้า ดูแลสัญญา โปรเจกต์ กระบวนการทำงาน และผลลัพธ์ทางธุรกิจ
- ตำแหน่ง AM คือ เจ้าหน้าที่ที่ต้องมีทักษะการสื่อสาร การบริหารเวลา และ Account Management เพื่อนำทีมส่งมอบงานให้ได้คุณภาพ
- รายได้ของ Account Manager เงินเดือน อยู่ประมาณ 25,000 – 70,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และประเภทอุตสาหกรรม

Account Manager คือ (AM) ตำแหน่งงานที่มีบทบาทหลักในการดูแลลูกค้าของบริษัทแบบใกล้ชิด เป้าหมายคือช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวแบบ Account Management ให้เกิดขึ้นในทุกโปรเจกต์ หน้าที่ของตำแหน่งนี้จะครอบคลุมตั้งแต่การรับบรีฟ ประสานงานกับแผนกภายใน ไปจนถึงการติดตามงานและรายงานผลให้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง
ตำแหน่งนี้สำคัญเพราะเป็น “ตัวกลาง” ระหว่างองค์กรกับลูกค้า ซึ่งต้องอาศัยทั้ง ทักษะการสื่อสาร และความเข้าใจบริบทธุรกิจของแต่ละอุตสาหกรรม เพื่อจัดการปัญหาและส่งมอบงานได้ตามคาดหวัง
หน้าที่หลักของ Account Manager
- ดูแลความสัมพันธ์กับลูกค้า (Client Relationship Management) เป็นผู้ประสานงานหลัก คอยตอบคำถาม รับฟีดแบ็ก วิเคราะห์ความต้องการ และแก้ปัญหาอย่างมืออาชีพ
- บริหารโปรเจกต์ (Project Coordination) การวางแผนการทำงาน รวมการกำหนดไทม์ไลน์ ประสานทีมครีเอทีฟ ทีมมีเดีย ทีมผลิต และการบริหารเวลา
- ติดตามผลลัพธ์งาน รวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ตัวเลข และนำเสนอผลหรือโอกาสใหม่ ๆ ให้ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ
- เพิ่มยอดขายจากลูกค้าเดิม (Upsell / Cross-sell) ชี้โอกาสทางธุรกิจ เช่น เสนอแพ็กเกจใหม่ แคมเปญเสริม หรือบริการอื่น ๆ
- ทำงานร่วมกับหลายทีม (Collaboration Skills) ทำงานร่วมกับทีมภายในหลายฝ่าย จำเป็นต้องมีทักษะประสานงานที่ดี

การจะทำงานในตำแหน่ง Account Manager ไม่ได้อาศัยเพียงแค่ความสามารถในการคุยกับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังต้องมี Soft Skills คือ ทักษะเชิงพฤติกรรม และ Hard Skills ทักษะความรู้เฉพาะทางควบคู่กันไป เพื่อบริหารโปรเจกต์จำนวนมากให้สำเร็จพร้อมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในองค์กรที่มีลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรม ยิ่งต้องใช้ทั้งการจัดการเวลา การคิดวิเคราะห์ และความเข้าใจงานเชิงลึกมากขึ้น
ในส่วนนี้เราจะอธิบายทักษะสำคัญที่คนอยากเป็น Account Manager, Key Account Manager, หรือแม้แต่ Accounting Manager ที่ต้องการเปลี่ยนสายงาน ควรมีติดตัวไว้
1. การสื่อสาร (Communication Skills)
ทักษะการสื่อสารคือหัวใจของตำแหน่ง AM คือตำแหน่งอะไร ที่ต้องคอยประสานงานระหว่างลูกค้าและทีมงานภายใน การสื่อสารที่ดีต้องชัดเจน กระชับ และตรงประเด็น สามารถถ่ายทอดความต้องการของลูกค้าให้ทีมเข้าใจเหมือนกัน และต้องรับมือกับคำถามหรือปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเป็นมืออาชีพ
Account Manager คือผู้ที่ต้องอธิบายทั้งข้อมูลด้านกลยุทธ์ ตัวชี้วัดผลงาน แผนงาน และข้อจำกัดในการทำงานได้อย่างโปร่งใสและน่าเชื่อถือ เป็นหนึ่งในทักษะที่ต้องใช้ทุกวันในการทำงาน
2. การแก้ไขปัญหา (Problem-Solving Skills)
ตำแหน่ง Account Management ต้องพบเจอปัญหาอย่างต่อเนื่อง ทั้งงานครีเอทีฟที่ส่งไม่ทัน ลูกค้าที่ต้องการปรับโจทย์เฉพาะหน้า หรือทรัพยากรทีมที่ไม่พอ ดังนั้นผู้ที่ทำงานในตำแหน่งนี้ต้องเป็นคนที่คิดแก้ปัญหาได้รวดเร็ว มองเห็นทางเลือกใหม่ และสามารถประสานหลายฝ่ายเพื่อแก้สถานการณ์ได้ทันที
การเป็น Key Account Manager ทำอะไร ก็ต้องใช้ทักษะการแก้ปัญหามากเป็นพิเศษเพราะดูแลลูกค้าระดับองค์กรที่มีความซับซ้อนสูงกว่า
3. การบริหารเวลา (Time Management)
การบริหารเวลาเป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญ เพราะตำแหน่ง AM ต้องรับผิดชอบหลายโปรเจกต์พร้อมกัน ตั้งแต่การรับบรีฟ ประสานงาน ไปจนถึงการตรวจงานและส่งมอบงานให้ลูกค้าตามกำหนด หากไม่สามารถแบ่งเวลาได้ดี อาจทำให้งานล่าช้าและกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้า
ทักษะนี้ช่วยให้การทำงานของ Account Manager เป็นไปอย่างราบรื่นและลดความผิดพลาดได้อย่างมาก
4. ความเข้าใจและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (Industry & Technical Knowledge)
Account Manager คือคนที่ต้องเข้าใจธุรกิจของลูกค้าทั้งหมด ตั้งแต่วัตถุประสงค์ การแข่งขัน ไปจนถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดนั้น ๆ เพื่อช่วยวางแผนให้ผลลัพธ์ตรงกับเป้าหมาย ยิ่งมีความรู้ลึกในอุตสาหกรรม เช่น ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง โซเชียลมีเดีย เทคโนโลยี หรือสินค้าอุปโภคบริโภค ก็ยิ่งเพิ่มความได้เปรียบ
คนที่ทำงานในสาย Brand Key Account Management, Social Key Account Management, หรือ Vendor Key Account Management ต้องยิ่งเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์และระบบของลูกค้าหรือแพลตฟอร์มนั้น ๆ เป็นพิเศษ
5. การทำงานร่วมกับทีม (Collaboration Skills)
ตำแหน่ง Account Manager คือผู้ที่ต้องทำงานร่วมกับหลายฝ่าย เช่น ทีมครีเอทีฟ ทีมคอนเทนต์ ทีมวางแผนสื่อ ทีมโปรดักชัน ทีมเทคนิค และผู้บริหาร การมีทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม (Collaboration Skills) รวมถึงการฟัง การเข้าใจปัญหา และการเจรจาเพื่อหาทางออกตรงกลาง จะช่วยให้งานเดินหน้าได้ราบรื่นมากขึ้น
แม้ว่าตำแหน่ง Account Manager (AM) และ Account Executive (AE) จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและดูแลลูกค้าฝั่งเดียวกัน แต่บทบาทของทั้งสองตำแหน่งมีความแตกต่างกันชัดเจนในด้านความรับผิดชอบ ระดับการดูแลลูกค้า และการตัดสินใจภายในโปรเจกต์ ซึ่งทำให้ทั้งสองตำแหน่งเสริมกันอย่างลงตัว
ความเข้าใจความต่างของตำแหน่งนี้สำคัญสำหรับคนที่ต้องการสมัครงานสาย Account หรือกำลังมองหาเส้นทางเติบโตไปสู่การเป็น Account Manager คือ ในอนาคต
Account Executive (AE) คืออะไร?
AE จะเป็นผู้รับผิดชอบงานเชิงปฏิบัติการมากกว่า เช่น
- รับบรีฟจากลูกค้า
- ประสานงานภายใน
- ติดตามงานจากทีมครีเอทีฟหรือทีมผลิต
- ตรวจงานเบื้องต้นก่อนส่งต่อให้ AM
- ทำรายงานหรือรวบรวมข้อมูลที่ใช้ในการทำงาน
กล่าวง่าย ๆ คือ AE เป็น “คนขับเคลื่อนงานรายวัน” ให้โปรเจกต์เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง
Account Manager (AM) คืออะไร?
AM มีหน้าที่ดูภาพรวมของลูกค้าทั้งบัญชี เป็นผู้รับผิดชอบด้านกลยุทธ์ ความสัมพันธ์ และผลลัพธ์ของงานทั้งหมด ได้แก่
- วางแผนกลยุทธ์ให้ตรงเป้าหมายลูกค้า
- บริหารเวลาและทรัพยากรของทีม
- ประสานงานระดับสำคัญที่ต้องใช้การเจรจา
- แก้ปัญหาที่ซับซ้อน
- อัปเดตผลลัพธ์ให้ผู้บริหารหรือทีมของลูกค้า
- เสนอผลงาน Upsell / Cross-sell เพื่อช่วยให้ลูกค้าเติบโต
จุดต่างคือ AM ต้องเข้าใจงานในภาพรวมมากกว่า และเป็นผู้ตัดสินใจหลักในหลายสถานการณ์
สรุป: AE คือ “ผู้ลงมือทำ” AM คือ “ผู้กำกับทิศทางและความสัมพันธ์ลูกค้า”
ทั้งสองตำแหน่งจึงทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้โปรเจกต์สำเร็จตามคุณภาพที่ลูกค้าต้องการ และเป็นตำแหน่งยอดนิยมสำหรับคนที่สนใจงานด้าน Account Management, การประสานงาน, การสื่อสาร และการดูแลลูกค้าในภาพรวม

สำหรับใครสงสัยว่า Account Manager เงินเดือน อยู่ที่เท่าไหร่ในประเทศไทย ณ ปี 2025 — นี่คือข้อมูลอัปเดตจากหลายแหล่งหลัก:
- ตาม Glassdoor ระดับเงินเดือนรวมของ Account Manager อยู่ในช่วง ประมาณ 46,000 – 109,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และโบนัส/คอมมิชชั่นประกอบด้วย
- ข้อมูลจาก Adecco Thailand Salary Guide 2024 ระบุช่วงเงินเดือนของ Account Manager (Sales & Business Development) ที่มีประสบการณ์ 3–7 ปี อยู่ระหว่าง 40,000 – 70,000 บาทต่อเดือน และหากมีประสบการณ์มากกว่า 7 ปีอาจสูงถึง 100,000 บาท
สรุปแนวโน้มรายได้ของ Account Manager:
- มือใหม่ หรือประสบการณ์น้อย: ส่วนมากเริ่มที่ ประมาณ 40,000-70,000 บาทต่อเดือน
- ระดับกลาง (มีประสบการณ์ 3-7 ปี): อยู่ในช่วงที่ค่อนข้างกว้าง อาจเข้าถึง ~ 70,000-100,000 บาทต่อเดือน ขึ้นอยู่กับบริษัท
- Key Account Manager: ได้รับค่าตอบแทนที่สูงกว่า Account Manager ทั่วไป โดยเฉลี่ยที่ ~ 56,500 บาทต่อเดือน (ข้อมูล WorkVenture)
สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นเส้นทาง Account Manager หลายคนมักสงสัยว่า ต้องเรียนคณะอะไร? หรือ ต้องมีพื้นฐานแบบไหนถึงจะสมัครได้? — คำตอบคือ มีหลายสาขาที่สามารถต่อยอดเข้าสู่อาชีพนี้ได้ ไม่ได้จำกัดเฉพาะสายเดียว
สาขาที่นิยมจบมาเพื่อเป็น Account Manager
ส่วนใหญ่ผู้สมัครตำแหน่ง Account Manager มักจบจากสาขาต่อไปนี้:
- บริหารธุรกิจ (Business Administration) เหมาะมากเพราะใช้ความรู้ด้านการจัดการ การเจรจา และความเข้าใจธุรกิจโดยตรง
- การตลาด (Marketing) เหมาะสำหรับ AM ที่ทำงานในเอเจนซี่, ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง และแบรนด์สินค้า
- นิเทศศาสตร์ (Communication Arts) ตอบโจทย์สาย Agency, Media, Creative และงานที่ต้องประสานงานกับหลายฝ่าย
- เศรษฐศาสตร์ (Economics) เหมาะกับ AM ที่ดูแลลูกค้าองค์กร หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข/วิเคราะห์ข้อมูล
- สายเทคโนโลยี / IT / Computer Science หากเป็น Tech Account Manager, SaaS AM, หรือบริษัทไอที ความรู้ด้านเทคนิคช่วยให้เข้าใจผลิตภัณฑ์ได้เร็วและสื่อสารกับทีม Dev ได้ดี
เป็น Account Manager ต้องจบตรงสายไหม?
ไม่จำเป็นต้องจบตรงสายเสมอไป — หลายบริษัทเปิดรับผู้สมัครจากหลากหลายคณะ หากมีคุณสมบัติต่อไปนี้:
- ทักษะการสื่อสารดี
- ทำงานเป็นทีมและประสานงานได้
- จัดการโปรเจกต์ได้
- เข้าใจสินค้า/บริการของบริษัท
- มีความสามารถด้านการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
- มีพื้นฐานการขายหรือการทำงานกับลูกค้า (Client Management)
- มีทัศนคติที่ดี พร้อมทำงานร่วมกับผู้อื่น
การเป็น Account Manager ที่ดี คือการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าและทำให้โปรเจกต์ราบรื่น นี่คือสิ่งสำคัญที่ต้องทำ:
- บริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (Client Relationship Management) – สร้างความไว้ใจและเป็นที่ปรึกษาที่ลูกค้าเชื่อถือ
- เข้าใจธุรกิจลูกค้า (Business Understanding) – รู้เป้าหมาย คู่แข่ง และความต้องการของลูกค้า
- บริหารโปรเจกต์ (Project Management) – คุม timeline และส่งงานตรงเวลา
- สื่อสารชัดเจน (Effective Communication) – ถอดโจทย์ลูกค้าให้ทีมทำงานได้ง่าย
- คิดเชิงกลยุทธ์ (Strategic Thinking) – เสนอแนวทางเพิ่มคุณค่าให้ลูกค้า
Account Manager คือ ตำแหน่งสำคัญที่ทำหน้าที่ดูแลความสัมพันธ์กับลูกค้า ดูแลโปรเจกต์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนส่งมอบงาน พร้อมทั้งวางกลยุทธ์ให้ตรงกับเป้าหมายของลูกค้า ตำแหน่งนี้จำเป็นต้องมี ทักษะการสื่อสาร, การบริหารเวลา, และความเข้าใจในธุรกิจและอุตสาหกรรมของลูกค้า
หน้าที่หลักของ Account Manager คือ:
- ประสานงานและตีโจทย์จากลูกค้าให้ทีมทำงานได้ชัดเจน
- บริหารโปรเจกต์ให้ตรงเวลาและมีคุณภาพ
- ติดตามผลลัพธ์และรายงานความคืบหน้าให้ลูกค้า
- เสนอแนวทางเพื่อพัฒนางานและต่อยอดลูกค้า
- สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวให้ลูกค้าอยู่กับบริษัทต่อไป
แนะนำโปรแกรม/คอร์สของ Disrupt
หากคุณอยากเริ่มต้นหรือพัฒนาทักษะในสายงานนี้ Disrupt มีคอร์สที่เกี่ยวข้อง เช่น
- Digital Account Management – เรียนรู้การบริหารลูกค้าแบบมืออาชีพ ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ การเจรจา และการติดตามผลลัพธ์
- Key Account Management – เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวสู่ระดับ AM หรือ Key Account Manager
ทั้งสองคอร์สช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจงาน Account Management, การทำงานกับทีมข้ามฟังก์ชัน และเติบโตเป็น Account Manager ที่มีประสิทธิภาพ
