สรุปบทเรียนจากหนังสือขายดีตลอดกาล The 7 Habits of Highly Effective People

April 2, 2024
BB Banthita

หนังสือ The 7 Habits of Highly Effective People หรือในชื่อภาษาไทยคือ ‘7 อุปนิสัย พลิกชีวิต’ เขียนโดย Stephen R. Covey เป็นหนังสือพัฒนาตนเองที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหนังสือพัฒนาตนเองที่มีอิทธิพลมากที่สุดตลอดกาล ทำยอดขายได้มากกว่า 25 ล้านเล่มทั่วโลก และถูกแปลไปมากกว่า 40 ภาษา 

หนังสือเล่มนี้พูดถึง Framework การทำงานของการเป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นหนึ่งในลักษณะสำคัญของการเป็น Manager หลักสูตร Manager of The Future by Disrupt ได้สรุปใจความสำคัญจากหนังสือสุดคลาสสิกมาให้ผู้อ่านในบทความนี้

The 7 Habits of Highly Effective People
หนังสือ The 7 Habits of Highly Effective People
  1. Be Proactive เป็นผู้นำเชิงรุก 

Manager ที่ดีต้องเป็นผู้นำเชิงรุก ซึ่งก็คือผู้นำที่มีความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจและการลงมือทำของตัวเอง โดยจะมีพฤติกรรมที่มุ่งเน้นไปที่การลงมือทำ และการหาทางออกของปัญหา โดยมีมุมมองต่ออุปสรรคในเชิงบวกและสร้างสรรค์ ซึ่งสามารถฝึกฝนได้ผ่านการโฟกัสทำในสิ่งที่ตนเองสามารถควบคุมได้ และการสร้าง Growth Mindset ที่มองเห็นโอกาสในการพัฒนาอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น ในฐานะ Manager เมื่อเกิดปัญหาผู้นำที่มีความ Proactive จะไม่โทษพนักงานใต้บังคับบัญชาเมื่อเกิดปัญหา แต่จะมุ่งไปที่การมองหาวิธีแก้ไข และวิธีในการป้องกันไม่ให้ปัญหานั้นซ้ำ หรือเวลาที่ได้รับโจทย์ที่ท้าทาย คนที่มีความเป็นผู้นำเชิงรุก จะไม่รอคำสั่ง แต่จะลองหาหนทาง และนำเสนอวิธีการด้วยความพยายามของตนเองก่อน เป็นต้น

  1. Begin with the End in Mind เริ่มต้นด้วย “เป้าหมาย” ตั้งแต่เริ่ม

เวลาที่เราจะออกเดินทาง สิ่งสำคัญที่เราต้องรู้คือว่า “เราจะไปที่ไหนกัน?” หรือเป้าหมายของการเดินทาง ดังนั้น Manager ที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ Manager ที่สามารถกำหนดเป้าหมายของตัวเองได้ และเชื่อมั่นในสิ่งเหล่านั้นเพื่อใช้เป็นแนวทางหรือเกณฑ์ในการตัดสินใจของตัวเอง มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่าตนเอง หรือทีมงานของเราต้องการบรรลุเป้าหมายอะไร เช่น ผู้นำทีมที่มีเป้าหมายในสร้างวัฒนธรรมทีมเป็นทีมที่สร้างคนเก่ง หรือ Winning Culture จะมีพฤติกรรมและวิธีการที่ตอบสนองต่อเป้าหมายนั่น ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Feedback Culture หรือการสนับสนุนให้มีการไปเรียนนอกสถานที่เพื่อ Reskill และ Upskill คนในทีมอยู่เสมอ  

  1. Put First-Things First อะไรสำคัญให้ทำก่อน
Put First-Things First อะไรสำคัญให้ทำก่อน
Put First-Things First อะไรสำคัญให้ทำก่อน

“ช่วงนี้ยุ่งมาก” หรือ “ไม่มีเวลาเลย” เป็นปัญหาคลาสสิกที่ Manager หลาย ๆ คนเจอ และเคล็ดลับคือการมองภาพใหญ่แล้วจัดลำดับความสำคัญ (ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาที่คลาสสิกมากเช่นกัน) โดยต้องไม่ลืมว่าความสำคัญไม่ใช่ความเร่งด่วนเสมอไป การจัดลำดับความสำคัญสามารถเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบระหว่าง “ความสำคัญ” และ “ความเร่งด่วน” เพื่อที่เราจะได้ลงมือทำงานที่สำคัญและจำเป็นจริง ๆ เพื่อให้เป้าหมายของทีมและองค์กรสำเร็จไปอีกขั้นนั่นเอง 

  1. Think Win-Win - คิดแบบวินวิน

การเป็น Manager ก็เหมือนเป็นลูกคนกลาง ดังนั้นคือการมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้าน แล้วหาวิธีแก้ปัญหาที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายไม่ทำให้ทั้งตัวเองและผู้อื่นเสียประโยชน์ของตัวเองเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ในบริหารสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมในฐานะผู้จัดการ เช่น เมื่อทีมของเราตั้งเป้าหมายที่อยากจะทำโปรเจกต์ A ในปีนี้ แต่ด้วยบริบทขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการเงิน หรือเป้าหมายและความพร้อมของแผนกอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผู้จัดการที่ดีจะต้องสามารถคิดและวางแผนเพื่อที่ให้ทีมสามารถบรรลุเป้าหมายได้ ในขณะที่ไม่สร้างผลกระทบเชิงลบหรือทำร้ายผู้อื่นด้วย

  1. Seek First to Understand, Then to Be Understood เอาใจเขา มาใส่ใจเรา  

ไม่ว่าจะในฐานะมนุษย์หรือ Manager คนหนึ่ง การรับฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจและพยายามทำความเข้าใจมุมมองของพวกเขา ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นของเราออกไป เพราะบางครั้งการฟังโดยไม่ทำความเข้าใจ อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง นำไปสู่บรรยากาศของการสนทนาและการทำงานที่ต้องอยู่ภายใต้ภาวะความกดดัน ตัวอย่างเช่น การที่ลูกน้องทำงานที่ได้รับมอบหลายผิดพลาด ก่อนที่จะเริ่มตำหนิควรจะพูดคุยกับเขา เพื่อทำความเข้าใจก่อนว่าลูกน้องคนนี้มีอุปสรรคอะไร? หรือเขาตั้งใจจะทำอะไรกันแน่? เพราะการเป็นผู้นำที่ดีต้องเข้าใจ “เจตนา” มากกว่า “ผลของการกระทำ” เพื่อที่จะได้ถอดบทเรียนและนำไปพัฒนาคนในทีมต่อไปในอนาคต

  1. Synergize ประสานงานเพื่อสร้างสิ่งที่ดีกว่า

Manager ที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่รับคำสั่งจากเบื้องบนแล้วนำมาทำต่ออย่างเดียว แต่คือการสร้างผลลัพธ์ให้ออกมาดีเกินคาดเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้วยการทำงานร่วมกับผู้อื่น โดยในข้อนี้ต้องอาศัยอุปนิสัยที่กล่าวไปก่อนหน้านี้มาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายให้ชัด การสื่อสาร หรือการคิดแบบ win-win เพื่อผลงานให้ออกมาแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นปริมาณงานที่เสร็จทำได้มากขึ้น หรือการทำปริมาณงานเท่าเดิมออกมาในระยะเวลาที่ไวขึ้นโดยการดึงศักยภาพของตัวเองและผู้อื่นออกมาเพื่อผลลัพธ์สูงสุดของงาน

‍Sharpen the Saw ลับคมทักษะตนเองอยู่เสมอ
Sharpen the Saw ลับคมทักษะตนเองอยู่เสมอ
  1. Sharpen the Saw ลับคมทักษะตนเองอยู่เสมอ

“เพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ อุปนิสัยที่สำคัญคือ ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง หมั่นเรียนรู้และฝึกฝนอยู่เสมอ” โดยผู้เขียน Stephen R. Covey ได้พูดถึง 4 ด้านที่ต้องพัฒนา

1.ด้านความรู้ คือการหมั่นศึกษาเพื่อ Up&Reskill ตัวเองให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ 

2.ด้านร่างกาย ดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง เพราะร่างกายคือพาหนะที่เราใช้ขับเคลื่อนไปทำงาน

3.ด้านจิตใจ พัฒนาสุขภาพใจให้เป็นคนที่มีหลักการและเหตุผล เพื่อจะได้ตัดสินใจไม่ผิดพลาด

4.ด้านความสัมพันธ์ บริหารความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัวให้ดีอยู่เสมอโดยฝึกฝนด้าน Soft Skills

จากอุปนิสัย 7 ข้อที่หลักสูตร Manager of The Future ได้หยิบยกมาจากหนังสือ ‘The 7 Habits of Highly Effective People’  ทำให้เราได้สะท้อนตัวเองและผู้อื่นในเรื่องของการทำงาน ซึ่งเป็นหนังสือที่ให้ข้อคิดและยังเป็นการสำรวจตัวเองอีกด้วย สำหรับผู้นำ หรือ Manager ที่ต้องการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการ นำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานเพิ่มเติมแบบลงลึกไปถึงเรื่องการบริหารจัดการคนในทีมและภาพธุรกิจ ขอแนะนำหลักสูตร Manager of the Future Batch รุ่นที่ 2 หลักสูตรสำหรับ Manager และคนที่อยากจะพัฒนาตนเองทั้งในด้านการบริหารคนและธุรกิจไปพร้อมกัน

หลักสูตร Manager of the Future รุ่นที่ 2 ได้อัปเดตเนื้อหาและรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ล่าสุด ผ่านการถ่ายทอดหัวใจสำคัญของการบริหาร ทั้งในเรื่อง People Management และ Business Acumen ให้ผู้เรียนได้ทั้งความรู้ ทักษะ ผ่านการแลกเปลี่ยน การทำ Workshop และรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย พร้อมกับหัวข้อการเรียนรู้สุดเข้มข้นที่ผู้นำยุคใหม่ไม่ควรพลาด

สมัครเลยวันนี้ พร้อมราคาพิเศษ!

ค่าธรรมเนียมหลักสูตร Early Bird ราคา 48,000 บาท 

*เพียงสมัครภายใน 30 เมษายน 2567 นี้

สมัครเรียน: https://bit.ly/43eL2LK

````````````````````````````````````````````

เรียน Onsite ทุกวันศุกร์และเสาร์ 4 ครั้ง

เวลา 9.00 - 17.00 น. 

วันศุกร์ และเสาร์ ที่ 5-6 และ 12-13 กรกฎาคม 2567

+ Company Visit วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 

ที่โรงแรมชั้นนำในกรุงเทพมหานคร

````````````````````````````````````````````

สอบถามเพิ่มเติม

‍LINE: @disruptignite

Email: all@disruptignite.com

Tel: 095-164-6056 ยูกิ, 085-098-1299 บีบี

Update ความรู้จาก Disrupt ได้ที่ช่องทาง