Outing บริษัทยังไงให้พนักงานปลื้มและองค์กรได้ประโยชน์เต็มที่
การจัดกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ภายในองค์กรถือเป็นหนึ่งในสวัสดิการสำคัญที่หลายบริษัทให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Outing บริษัท ซึ่งเป็นมากกว่าการเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนประจำปี แต่ Outing บริษัท คือการลงทุนใน "คน" ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุดขององค์กร การวางแผนที่รอบคอบจะช่วยให้ทริปนี้ถูกใจพนักงาน เสริมสร้างสร้างทีมเวิร์ค และให้ผลลัพธ์เชิงบวกต่อบริษัทได้อย่างแท้จริง
ที่ Disrupt Technolgy Venture เราเชื่อว่าการจัดกิจกรรม Outing นั้น นอกจากความสนุกแล้ว เรามุ่งเน้นในการสร้างผลลัพธ์เชิงบวกให้กับวัฒนธรรมองค์กร ด้วยการร่วมสร้างและออกแบบกิจกรรมที่ช่วยให้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กรและปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรไปพร้อม ๆ กับความสนุก
ในบทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกขั้นตอนการจัด Outing บริษัทที่มีประสิทธิภาพและเสริมสร้าง Employee Experience ที่ดีให้กับองค์กรเพื่อรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรอย่างยั่งยืน
Highlight
- Outing บริษัท คือการลงทุนใน Employee Experience และการพัฒนา Team Building โดยเน้นการสร้าง ทัศนคติที่ดี และ ทีมเวิร์ค ของพนักงาน
- การวางแผนที่ดีต้องเริ่มจากการสำรวจความต้องการพนักงาน การกำหนดงบประมาณ และการออกแบบกิจกรรมที่สอดแทรกทักษะ Collaboration Skill
- หากไม่พร้อมจัดทริปใหญ่ บริษัทสามารถใช้ทางเลือกอื่น เช่น การจัดปาร์ตี้ในบริษัท กิจกรรม Ice Breaking หรือการมอบวันหยุดพิเศษ
Outing บริษัท คือกิจกรรมที่บริษัทจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และตอบแทนความทุ่มเทของพนักงาน โดยบริษัทเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายหลัก อาจอยู่ในรูปแบบทริปท่องเที่ยวประจำปี (Outing trip) กิจกรรมสันทนาการนอกสถานที่ หรือการจัดงานเลี้ยง จุดมุ่งหมายหลักคือการให้พนักงานได้พักผ่อน ผ่อนคลายความตึงเครียดจากการทำงานและใช้เวลาร่วมกันในบรรยากาศที่ไม่เป็นทางการกับเพื่อนร่วมงาน
บทบาทสำคัญของ Outing บริษัทคือการเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการ:
- สร้าง Team Building ที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ ให้พนักงานจากต่างแผนกได้รู้จักและใกล้ชิดกันมากขึ้น
- กระชับความผูกพัน สร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (Sense of Belonging) และลดความขัดแย้งภายในองค์กร
- ส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กร เป็นโอกาสในการสื่อสารค่านิยมและวิสัยทัศน์ขององค์กร
- เป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้าง Employee Experience ที่ดีให้แก่พนักงาน ช่วยรักษาให้พนักงานอยู่กับองค์กรได้นานขึ้น
- เป็นส่วนหนึ่งของงาน HRM หรือการบริหารทรัพยากรบุคคลที่มุ่งเน้นการสร้างขวัญกำลังใจและการรักษาบุคลากร
ข้อดี
- เพิ่มขวัญและกำลังใจ พนักงานรู้สึกว่าบริษัทเห็นคุณค่าของพวกเขา
- ลดความเครียด การพักผ่อนช่วยให้พนักงานกลับมาทำงานด้วยพลังที่เต็มเปี่ยม
- พัฒนาทีมเวิร์ค กิจกรรมกลุ่มช่วยให้เกิด การทำงานเป็นทีม และ Collaboration Skill นอกกรอบปกติ
- กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ การเปลี่ยนบรรยากาศช่วยให้เกิดมุมมองใหม่ ๆ และไอเดียใหม่ ๆ ในการทำงาน
- พนักงานได้พักผ่อนจากงานที่ได้ทำทุกวัน
ข้อเสีย
- ภาระด้านงบประมาณ: โดยเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่หรือองค์กรที่ต้องการจัด Company Outing ที่มีคุณภาพ
- ความยุ่งยากในการบริหารจัดการ: ต้องมีการวางแผนและจัดการรายละเอียดจำนวนมาก ทั้งเรื่องของงบประมาณ การจัดการงาน Logistics หรือ Operations การสื่อสารกับพนักงานภายในองค์กร
- การเข้าร่วมกิจกรรม: อาจมีพนักงานบางส่วนไม่สะดวกหรือไม่ต้องการเข้าร่วม หากจัด Outing บริษัทในวันหยุดส่วนตัว
- ความไม่เท่าเทียม: หากจัดได้ไม่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของพนักงานทั้งในเรื่องของรูปแบบกิจกรรม สถานที่ เป็นต้น
การจัด Outing บริษัท มีหลายองค์ประกอบที่ต้องพิจารณาและวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้ประสบการณ์ในการเดินทางไป Outing บริษัท ออกมาเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจไม่รู้ลืมสำหรับพนักงาน
สำรวจความต้องการของพนักงาน
ขั้นตอนแรกในการจัดเอาท์ติ้งบริษัทเพื่อให้ตอบโจทย์พนักงานจะต้องเริ่มจากการสำรวจผ่านแบบสอบถามเพื่อให้ทราบถึงความต้องการต่าง ๆ ของพนักงาน โดยสามารถทำแบบสอบถามได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบสอบถามแบบเป็นทางการที่สื่อสารให้พนักงานทั้งองค์กรตอบแบบสำรวจ หรืออาจจะเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ไม่เป็นทางการ เช่น การพูดคุยกับพนักงานแบบ Casual โดยในรูปแบบหลังทีมงานอาจจะได้ข้อมูลหรือ Insight ที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากแบบสอบถามที่เป็นทางการ
ความต้องการของพนักงานอยู่ในหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกิจกรรม ช่วงเวลา หรือสถานที่ที่พนักงานอยากไป เพื่อทำให้การวางแผนในขั้นตอนถัดไป มีภาพของเอาท์ติ้งที่ชัดเจนและเป็นไปตามความต้องการที่แท้จริงของพนักงาน
วางแผนงบประมาณ
การกำหนดงบประมาณที่ชัดเจนและครอบคลุมทุกส่วน การมีงบประมาณที่แน่นอนจะช่วยให้เลือกรูปแบบการจัดงานที่เหมาะสมได้ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ที่เหมาะสม กิจกรรมที่เหมาะสม เป็นต้น
เลือกสถานที่และที่พัก
การเลือกสถานที่และที่พัก ซึ่งหากเราวางแผนในขั้นตอนที่ 2 ได้สมเหตุสมผลเหมาะกับความคาดหวังของพนักงานจากการสำรวจเบื้องต้น เราจะสามารถเลือกสถานที่และที่พักให้สอดคล้องกับงบประมาณและรูปแบบกิจกรรมที่วางแผนไว้ และควรพิจารณาถึงความสะดวกสบายในการเดินทาง ความปลอดภัย และขนาดของพื้นที่ให้สอดคล้องกับจำนวนคนและลักษณะกิจกรรม
วางแผนวัน เวลา และการเดินทาง
เลือกวันที่เหมาะสมที่สุดภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ (เช่น วันว่างของพนักงาน ช่วงเวลาที่สะดวกของบริษัทโดยอ้างอิงจากแผนงานทั้งปี เป็นต้น) โดยส่วนใหญ่มักเป็นวันธรรมดา (นับรวมเป็นวันทำงาน) หรือวันเสาร์ เพื่อแสดงความใส่ใจต่อวันหยุดพักผ่อนส่วนตัวของพนักงาน โดยควรวางแผนการเดินทางให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ออกแบบกิจกรรมกระชับสัมพันธ์ที่มีประโยชน์
กิจกรรมที่จัดควรยึดตามจุดประสงค์ของงานเป็นหลัก
- หากทีมจัดงานมองว่าอยากเน้นการพักผ่อน ก็ต้องออกแบบกิจกรรมให้ตารางไม่แน่นจนเกินไปและมีกิจกรรมที่ผ่อนคลายให้ เช่น การแวะพักเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ
- หากทีมจัดงานต้องการเน้น Team Building ก็จะต้องมีการสอดแทรกกิจกรรมที่เน้นการทำงานเป็นทีม การสื่อสาร หรือการแก้ปัญหาร่วมกัน
นอกจากนี้ การมีกิจกรรม Ice Breaking ในช่วงเริ่มต้น จะช่วยให้พนักงานปรับตัวรู้จักเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันมาก่อนได้เป็นอย่างดี
ส่งเสริมให้ผู้บริหารมีส่วนร่วมในกิจกรรม
การที่ผู้บริหารและผู้นำระดับสูงเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเป็นกันเองและจริงใจ จะช่วยลดช่องว่างระหว่างระดับการทำงาน และสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรในองค์กร โดยในการออกแบบกิจกรรมต่าง ๆ อาจจะมีการให้ผู้บริหารขององค์กรเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรมหรือเป็นหนึ่งในผู้จัดกิจกรรมในวันจริงเพื่อให้พนักงานรู้สึกเข้าถึงผู้บริหารมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม มีหลายบริษัทที่อาจจะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ เวลา หรือจำนวนพนักงาน ทำให้การจัด Outing บริษัท ที่จะต้องเดินทางไปจัดงานใหญ่ ๆ ที่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ อาจไม่ใช่ทางเลือกเดียว แต่ยังมีกิจกรรมอีกมากมายที่ทางทีม HR สามารถมองไว้เป็นตัวเลือกทดแทน Outing บริษัทได้
จัดปาร์ตี้ในบริษัท
การจัดงานเลี้ยงในสำนักงาน (Office Party) ที่มีการตกแต่ง อาหาร ดนตรี และเกมง่าย ๆ เป็นทางเลือกที่ประหยัดงบประมาณและประหยัดเวลาเดินทางอีกด้วย
จัดกิจกรรมสานความสัมพันธ์ในรูปแบบง่าย ๆ
หากต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นภายในองค์กร ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ง่าย ๆ ที่สามารถทำร่วมกันได้ เช่น การอบรมพนักงาน สั้น ๆ ในหัวข้อที่น่าสนใจ การจัดกีฬาสีขนาดเล็ก หรือการจัดกิจกรรม “Happy Hour” หลังเลิกงาน
เพิ่มวันหยุดพิเศษหรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ
การมอบวันหยุดเพิ่มเติม (Company Holiday) หรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ เพื่อให้พนักงานสามารถนำไปใช้พักผ่อนตามความต้องการส่วนตัวได้
การจัด Outing บริษัทที่ดีเปรียบเสมือนการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงทั้งต่อพนักงานและองค์กรในภาพรวม ซึ่งเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของทีมงานแผนก HRในการดูแลบุคลากร ดังนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน (Productivity): พนักงานที่ผ่อนคลายและมีความสุขมีแนวโน้มที่จะทำงานได้ดีขึ้น
- ลดอัตราการลาออก (Turnover Rate): สวัสดิการและกิจกรรมดี ๆ ทำให้พนักงานรู้สึกรักและผูกพันกับองค์กรมากขึ้น
- สร้างภาพลักษณ์ที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดและรักษา Talent Management
- ปรับปรุงการสื่อสาร การปฏิสัมพันธ์นอกสถานที่ทำงานช่วยให้การสื่อสารระหว่างทีมราบรื่นยิ่งขึ้น
- ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม การได้พักผ่อนและเปลี่ยนมุมมองนำไปสู่ไอเดียใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ทั้งกับองค์กรและตัวพนักงานเอง
โดยสรุปคือOuting บริษัท ไม่ใช่แค่รายจ่าย แต่คือ "การลงทุน" ในความผูกพันและสุขภาพจิตใจของพนักงาน การวางแผนกิจกรรมที่ผสมผสานความสนุกและการสร้างทักษะจะช่วยให้องค์กรของคุณก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงพร้อมทีมงานที่แข็งแกร่ง
หากองค์กรของคุณต้องการออกแบบ Outing บริษัทในรูปแบบ Team Building ที่ผสมผสานทั้งความสนุก ความผ่อนคลายและเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่เน้นแฟ้นให้เกิดขึ้นภายในองค์กร รวมไปถึงปลูกฝังวัฒนธรรมขององค์กรและสร้าง Sense of Belonging ให้เกิดขึ้นกับพนักงาน สามารถติดต่อบริษัท Disrupt Technology Venture เพื่อร่วมออกแบบโปรแกรม Team Building และอบรมพนักงาน ที่ตอบโจทย์องค์กรของคุณ
🔥 กรอกข้อมูลและรอการติดต่อกลับจาก Program Manager ได้เลย: Corporate Program
Outing บริษัทควรจัดช่วงไหน?
ช่วงเวลาในการจัดขึ้นอยู่กับแผนงานบริษัทของคุณว่างานจะเยอะในช่วงไหนหรือมีการมอบโบนัสให้ในช่วงเดือนไหน โดยส่วนใหญ่จะจัดกันในช่วงกลางปี (เดือน 6-7) และปลายปี (เดือน 10-11)
Outing บริษัททำกิจกรรมสนุก ๆ อะไรดี?
- Walk Rally / Amazing Race ที่สอดแทรกภารกิจที่ต้องใช้ การทำงานเป็นทีม และการแก้ปัญหาร่วมกัน
- กิจกรรม Ice Breaking ง่าย ๆ (เช่น เกม 2 Truths and a Lie หรือ Human Bingo)
- Team Building Games แนวสร้างสรรค์ เช่น การสร้างหอคอยจากมาร์ชแมลโลว์
- กิจกรรม CSR (Corporate Social Responsibility) เช่น การปลูกป่า หรือการทำอาหารเลี้ยงเด็กในมูลนิธิ ซึ่งทำให้พนักงานได้ทำความดีร่วมกันและเกิดความผูกพันกับองค์กรมากขึ้น
