Employee Experience ที่ดี ยกระดับคุณภาพงานและองค์กร

July 8, 2025
Disrupt Team
Employee Experience
Employee Experience 

ในยุคที่การแข่งขันในตลาดแรงงานเข้มข้นขึ้นทุกวัน การสร้าง Employee Experience หรือประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่องค์กรไม่ควรมองข้าม บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Employee Experience ตั้งแต่ความหมาย ความสำคัญ ไปจนถึงวิธีพัฒนาเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนขององค์กร

Employee Experience คือภาพสะท้อนของทุกจุดสัมผัส (Touchpoint) ระหว่างพนักงานกับองค์กร ซึ่งรวมถึงการสัมผัสตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัครงาน การอบรมพนักงาน และการทำงานร่วมกัน โดยสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อความรู้สึกของพนักงานที่มีต่อองค์กรโดยตรง องค์กรที่ประสบความสำเร็จมักมี Employee Experience ที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจ

Highlight

  • Employee Experience หมายถึงประสบการณ์โดยรวมของพนักงานในองค์กรตั้งแต่การสมัครงานจนถึงการลาออก
  • มีความสำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ความสุขของพนักงาน และความสำเร็จองค์กร
  • องค์ประกอบสำคัญของ Employee Experience ได้แก่ วัฒนธรรมองค์กร เทคโนโลยี และสภาพแวดล้อมการทำงาน
  • การพัฒนา Employee Experience ต้องเริ่มจากการรับฟังพนักงาน ใช้เทคโนโลยี และสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุน
  • ตัวอย่างที่ดีของการสร้าง Employee Experience เช่น การจัดโปรแกรม Onboarding ที่น่าประทับใจ และการให้สวัสดิการที่ตอบโจทย์
  • การสร้าง Employee Experience ที่ดีช่วยให้องค์กรดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพได้อย่างยั่งยืน

Employee Experience คืออะไร? เข้าใจแก่นแท้ของประสบการณ์พนักงาน

Employee Experience คือ

Employee Experience หมายถึงประสบการณ์ทำงานโดยรวมของพนักงานในระหว่างการทำงานในองค์กร ตั้งแต่กระบวนการสรรหา การทำงานในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการลาออก ซึ่งครอบคลุมทั้งด้านความรู้สึก การปฏิสัมพันธ์ และการรับรู้ของพนักงานที่มีต่อองค์กร

สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาคือ Employee Experience ไม่ได้หมายถึงแค่สวัสดิการที่องค์กรมอบให้พนักงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความรู้สึกว่าพนักงานมีคุณค่าและได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ องค์กรที่สามารถสร้าง Employee Journey ที่ดีได้ จะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ ช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างพนักงานและองค์กร และลดการเกิด Quiet Quitting ได้อีกด้วย

เพราะอะไร Employee Experience จึงสำคัญ?

Employee Experience ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความพึงพอใจของพนักงาน แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ทางธุรกิจ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดอัตราการลาออก หรือสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดแรงงาน ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างประสบการณ์ที่ดีจะช่วยให้องค์กรดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้ได้ในระยะยาว

พนักงานที่มีประสบการณ์ที่ดีในองค์กรจะมีแนวโน้มที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกในทีมงาน เช่น การสร้างทีมเวิร์คหรือเพิ่มความร่วมมือระหว่างเพื่อนร่วมงาน ลดความขัดแย้ง หรือสนับสนุนให้ทีมงานบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น Employee Experience ที่ดีจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความทุ่มเทของพนักงาน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการเติบโตขององค์กรในภาพรวม ดังนั้น การพัฒนา Employee Experience จึงถือเป็นการลงทุนที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนทางธุรกิจได้อย่างยั่งยืนและต่อเนื่อง

3 องค์ประกอบหลักของ Employee Experience ที่องค์กรต้องรู้

องค์ประกอบของ Employee Experience

องค์ประกอบหลักของการสร้าง Employee Experience ที่นิยมและพูดถึงเป็นแนวคิดจาก Jacob Morgan ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการทำงานยุคใหม่ เช่น The Future of Work หรือ The Future Leader ทำให้เขาได้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของการทำงานที่เปลี่ยนไป และได้คิดส่วนผสมในการสร้าง Employee Experience ที่ดีว่าควรประกอบไปด้วยองค์ประกอบ 3 อย่างดังนี้

วัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture): 

วัฒนธรรมที่ส่งเสริมความโปร่งใส การสนับสนุน และการยอมรับความหลากหลาย รวมถึงการสร้างบรรยากาศที่พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมและเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี (Technology): 

เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น ซอฟต์แวร์ HR หรือแพลตฟอร์มการทำงานร่วมกัน โดยต้องเน้นความง่ายต่อการใช้งานและตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของพนักงาน

สภาพแวดล้อมในพื้นที่ทำงาน (Physical & Digital Workspace): 

สถานที่ทำงานที่สะดวกสบาย เช่น โต๊ะทำงานที่เหมาะสม แสงไฟที่เพียงพอ รวมถึงการสร้างพื้นที่ดิจิทัลที่ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำให้ทั้งสามองค์ประกอบนี้ทำงานร่วมกันอย่างสมดุล คือสิ่งที่จะสร้าง Employee Experience ที่ยอดเยี่ยมและช่วยให้องค์กรสร้างความได้เปรียบในตลาดได้อย่างยั่งยืน องค์กรที่ให้ความสำคัญในจุดนี้จะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ยาวนานต่อทั้งพนักงาน และตัวธุรกิจเอง

วิธีพัฒนา Employee Experience ให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน 

วิธีสร้าง Employee Experience

ในการสร้าง Employee Experience ที่ดีและยั่งยืนต้องการการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากทั้งทีม HR (Human Resource) และองค์กร เพื่อที่จะสร้างและสนับสนุนสิ่งต่าง ๆ ที่ส่งผลดีต่อการพัฒนา Employee Experience

1. อุปกรณ์การทำงานครบครันและทันสมัย

มอบอุปกรณ์การทำงานที่ทันสมัยและเหมาะสม เช่น คอมพิวเตอร์ สถานีงาน หรือซอฟต์แวร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ

2. สภาพแวดล้อมที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจ

พื้นที่ทำงานที่สะดวกสบายและสอดคล้องกับความต้องการ เช่น แสงไฟธรรมชาติ การจัดวางโต๊ะทำงานที่เหมาะสม หรือมุมพักผ่อน

3. สนับสนุนการเรียนรู้และเพิ่มพูนทักษะใหม่ ๆ

จัดโปรแกรมฝึกอบรมทักษะใหม่ ๆ หรือการพัฒนาศักยภาพ เพื่อช่วยให้พนักงานก้าวหน้าในสายงานและเติบโตไปพร้อมองค์กร

4. ปรับตัวให้พร้อมรับกับการทำงานในยุค New Normal

สนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) หรือ Hybrid Workplace และเตรียมทรัพยากรที่ช่วยให้พนักงานปรับตัวได้อย่างราบรื่น

5. สร้างความผูกพันและการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

ส่งเสริมความรู้สึกว่าพนักงานมีบทบาทสำคัญในองค์กรผ่านกิจกรรมทีม เช่น Ice Breaking หรือการเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจ

6. มอบสวัสดิการที่ใส่ใจพนักงาน

เสนอสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์อย่างประกันสุขภาพ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต

ตัวอย่างแนวทางสร้าง Employee Experience ที่แข็งแรงในองค์กร

  1. Google: Google ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในองค์กรที่มี Employee Experience เป็นระบบและดีกับพนักงาน ด้วยสภาพแวดล้อมการทำงานที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ เช่น การจัดพื้นที่ทำงานที่หลากหลาย การให้บริการอาหารฟรี รวมถึงกิจกรรมเพื่อความผ่อนคลาย เช่น ห้องเกมและห้องนวด
  2. Netflix: Netflix มีชื่อเสียงในเรื่องการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความยืดหยุ่นและความรับผิดชอบ โดยเปิดโอกาสให้พนักงานจัดการเวลาและวันลาหยุดได้เองตามความเหมาะสม พร้อมทั้งสนับสนุนการสื่อสารที่เปิดกว้างในบริษัท
  3. Airbnb: Airbnb เน้นการสร้างความรู้สึกของการ "Belonging" หรือการเป็นส่วนหนึ่งในองค์กร โดยมีโปรแกรมที่ให้พนักงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมชุมชน เช่น การทำงานอาสาสมัคร รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงความหลากหลายและการยอมรับความแตกต่าง

Employee Experience และ Employee Engagement 2 อย่างนี้แตกต่างกันอย่างไร?

หลายคนอาจสับสนระหว่าง Employee Experience และ Employee Engagement เพราะทั้งสองแนวคิดต่างมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและองค์กร แต่ในเชิงลึก ทั้งสองนั้นมีความแตกต่างที่สำคัญดังนี้

  • Employee Experience หมายถึง การเดินทางของพนักงานในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสรรหา การเข้าร่วมงาน การพัฒนาทักษะ ไปจนถึงวันสุดท้ายที่ออกจากองค์กร โดยมุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกจุดสัมผัสของพนักงานกับองค์กร องค์กรที่มี Employee Experience ที่ดีมักให้ความสำคัญกับปัจจัยทั้งด้านวัฒนธรรม เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมการทำงาน
  • Employee Engagement คือ ความรู้สึกของพนักงานที่มีต่อองค์กร ไม่ว่าจะเป็นความผูกพัน ความพึงพอใจ และความตั้งใจในการทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายของบริษัท การสร้าง Engagement ต้องอาศัยการสร้างแรงจูงใจ การยอมรับในผลงาน และความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมและหัวหน้างาน

ความแตกต่างที่สำคัญคือ

  • Employee Experience เป็นเรื่องของระบบหรือโครงสร้างที่องค์กรวางไว้ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงาน
  • Employee Engagement เป็นเรื่องของความรู้สึกและการมีส่วนร่วมของพนักงานต่อเป้าหมายและวัฒนธรรมองค์กร

Employee Experience การสร้างประสบการณ์ที่ดีเพื่อองค์กรที่เติบโตอย่างยั่งยืน

Employee Experience เป็นมากกว่าแค่เรื่องการสร้างความสุขให้พนักงาน แต่คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จในระยะยาวขององค์กร เมื่อพนักงานได้รับประสบการณ์ที่ดี พวกเขาจะมีความสุข รู้สึกมีคุณค่า และมีแรงจูงใจในการทำงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของงาน ความคิดสร้างสรรค์ และความสำเร็จขององค์กร

ในยุคที่ตลาดแรงงานแข่งขันกันอย่างดุเดือด การลงทุนใน Employee Experience ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลือก แต่เป็น กลยุทธ์ที่ขาดไม่ได้ องค์กรที่มองการณ์ไกลและใส่ใจในประสบการณ์ของพนักงานจะสามารถดึงดูดและรักษาคนเก่งไว้ได้ พร้อมทั้งสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

ที่ Disrupt Technology Venture เองก็มีหลักสูตรที่สอนเจาะลึกการวางแผน Employee Experience เพื่อมัดใจพนักงานไม่ว่าจะเป็น Disrupt Corporate Program หรือ หลักสูตร HR of The Future

Update ความรู้จาก Disrupt ได้ที่ช่องทาง