6 ทักษะ ของ CEO ที่จะช่วยให้ startups โตได้ 10 เท่า

November 6, 2018
Krating Poonpol

จากที่ post ก่อนหน้านี้เรื่อง 10xCEO ว่าการเป็น CEO ของบริษัท startup จะต้องมีคุณลักษณะและความสามารถที่ปรับเปลี่ยนตัวเองตาม stage ของ startup ของเขา และช่วยให้ startups ของเขาเติบโตได้เป็น สิบ ๆ เท่าอย่างต่อเนื่อง วันนี้เลยขอเพิ่มเติมว่าอะไรเป็น skill sets ที่สำคัญที่สุด ที่ 10xCEO เหล่านี้มีและ startup CEO ทุกคนควรจะมีไว้ รวมถึงหนังสือที่เกี่ยวข้องและแนะนำอ่านครับ

1.ทักษะการจัดการเวลา (Extreme Time Focus)

ต้นทุนที่สำคัญที่สุดของ startup คือ "เวลา" เพราะ startup แข่งขันในสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูงมากและอยู่ดี ๆ สภาพตลาด, สถานการณ์การแข่งขัน, พฤติกรรมลูกค้าก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องพูดถึงหลายๆ ครั้งที่ startup ต้องเข้าไป disrupt อะไรบางอย่าง ที่มีผลกระทบต่อผู้เล่นดั้งเดิม (ซึ่งมีเงินทุนและทรัพยากรที่มากกว่าเรา) 

ดังนั้น startup จึงต้อง focus อย่างมากและใช้เวลาและทรัพยากรทุกอย่างที่มีกับ priority แค่ 1-2 อย่างที่มีผลต่อธุรกิจ และกัดไม่ปล่อยจนกว่าจะสำเร็จ ในระยะเริ่มต้น startup ควร focus ที่ metrics แค่ตัวเดียว หรือที่เรียกว่า One Metrics That Matter (OMTM) แล้วทำทุกอย่างให้ตัวชี้วัดนั้นดีขึ้นที่สุดและเร็วที่สุด - ในเรื่อง Extreme Time Focus นั้นมีหนังสือชื่อ The One Thing ที่แนะนำครับ

2. ทักษะการเรียนรู้อย่างรวดเร็ว (Accelerated Learning Ability)

Startup CEO ที่เก่งๆ นั้นเขาไม่ได้เป็นคนที่รู้ทุกเรื่อง แต่เป็นคนที่สามารถเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว จากการฟัง/พูดคุยและสามารถเรียนรู้ได้จาก network ที่หลากหลาย สามารถสร้าง connection ที่ดีมากๆ กับ ลูกค้า, Partner, นักลงทุน ผู้รู้ในอุตสาหกรรม และเรียนรู้อย่างรวดเร็วจากคนเหล่านั้นได้ รวมถึงการมี Mentor และ Expert Advisors ด้านต่างๆ เช่น Growth, Product Design, Tech ก็เป็นแหล่งการเรียนรู้ทางลัดอย่างรวดเร็วได้เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือกระบวนการเรียนรู้จากการลงมือทำจริงแล้วนำ feedback จากลูกค้าและตลาดมาพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องครับ

3. พัฒนาทักษะตาม Stage ของ Startup (Motivation and Skill Match)

เหมือนที่เคยพูดใน post ก่อนหน้านี้ครับ ว่าแต่ละ stage ของ startups นั้นต้องการทักษะและ motivation ที่แตกต่างกัน ดังนั้น startups CEO ต้องเติบโตและปรับตัวให้ทันตาม stages ของ startups ของเขา ตั้งแต่เป็น Chief Everything Officer ในขณะที่บริษัทกำลังตั้งต้น CEO ทำทุกอย่างตั้งแต่โทรหาลูกค้า ตอบลูกค้า get feedback 

ต่อมาเมื่อบริษัทเริ่มขยาย CEO ต้องมีทักษะการเป็น Coach/Chief Architect สามารถดึงดูดพนักงานเก่งๆ และเทรนพนักงานเหล่านั้นได้ ต่อมาเป็น Head Coach / Chief Strategy Officer คือการเลือกพนักงานระดับ Top มาบริหาร สร้าง Culture และวางยุทธศาสตร์ให้กับบริษัทเพื่อให้บริษัท run ไปได้ด้วยตัวเอง และท้ายสุด Chief Visionary Officer คือการมองภาพใหญ่ถึงวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมบริษัทต้องมีทิศทางอย่างไรและไปทางไหนต่อ 

ทั้งนี้มี CEO ของหลาย Startup ทีเดียว ที่ไม่สามารถเติบโดได้ทันกับการเติบโตของ Startup ผลคือ เมื่อบริษัทโตขึ้นถึงจุดหนึ่ง CEO ที่ปรับตัวไม่ทันจึงต้องลาออก และบริษัทจำเป็นต้องจ้าง Professional CEO มาบริหารแทนครับ

4. ทักษะการขายและการสร้างรูปแบบธุรกิจ (Business Model Creation)

CEO ควรจะคิดและหารูปแบบการหารายได้อย่างยั่งยืน ทั้งการออกแบบ Unique Value Proposition หรือจุดขายที่แตกต่าง และสร้าง Profit Formula ที่ทำซ้ำได้ และขยายขนาดได้อย่างรวดเร็วที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ แน่นอนในบาง Startup นั้น คุณไม่สามารถทำเงินได้ตั้งแต่เริ่มแรก จำเป็นต้องรอให้มีลูกค้า (Traction) จนถึงจุดที่เหมาะสม ดังนั้น CEO จึงต้องมีทักษะการขาย มีความรู้เรื่องการระดมทุน มีความสามารถในการขาย vision ให้กับนักลงทุนและ Partner เพื่อนำเงินเข้ามาในช่วงที่บริษัทยังไม่สามารถทำเงินหรือยังขาดทุนอยู่ รวมถึงการควบคุม/ลดต้นทุน และการหา Strategic Partner มาร่วมด้วย

5. ทักษะการสร้างกระบวนการ (Process Design)

CEO ที่มีทักษะที่ดีในเรื่องการออกแบบกระบวนการ ย่อมนำพาบริษัทให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด กระบวนการที่ว่ายกตัวอย่างเช่น กระบวนการขาย/กระบวนการการได้ลูกค้า หรือ Customer Acquisition Process คือแทนที่จะต้องจ้างเซลล์ทีมจำนวนมากๆ เพื่อให้ได้ลูกค้า แต่ใช้วิธีการสร้าง Process หรือ Runway ในการได้ลูกค้าหรือแม้กระทั่ง Partner รวมถึงกระบวนการออกแบบ Product Design, After Sale Service ที่ง่าย และสามารถออกแบบกระบวนการให้เป็นแบบ Automate ได้ หรือการใช้ Software มาทุ่นแรง หรือแม้กระทั่ง outsource กระบวนการบางอย่างที่ไม่สำคัญออกไปให้คนอื่นทำ

6. ทักษะการสร้างบรรยากาศดึงดูด Talents (Talent Environment)

การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดึงดูด talents ให้อยากเข้ามาร่วมงาน ยกตัวอย่าง บริษัทอย่าง Instagram ตอน exit ให้ FB ที่ 1 billion usd มีพนักงานเพียง 13 คน และ Whatsapp ตอน exit ที่ 19 billion USD ก็มี พนักงานเพียง 55 คน 

โดยปกติแล้วบริษัท tech startup นั้นใช้คนน้อย แต่ทว่าแต่ละคนนั้นมี productivity สูงมาก และเป็น talents ที่สามารถสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจมหาศาล ดังนั้น 10xCEO ต้อง มี วิสัยทัศน์ มี charisma และมีศักยภาพที่สามารถจูงใจพนักงานระดับสุดยอดเหล่านี้มาร่วมหัวจมท้ายกับ Startup ของคุณได้ ขอย้ำอีกครั้งว่า ศึกแรกของ Startup CEO ที่ต้องชนะคือ ศึกชิง talents ที่สร้าง value เหล่านี้ ไม่ใช่ศึกแย่งเงินทุนครับ

Update ความรู้จาก Disrupt ได้ที่ช่องทาง