อย่าปล่อยให้ Gen AI หยุดความคิดสร้างสรรค์ขององค์กร!

April 19, 2024
Yok Thanawan

อย่าปล่อยให้ Gen AI หยุดความคิดสร้างสรรค์ขององค์กร! – บทบาทของ Manager ในการปลุกความคิดสร้างสรรค์คนในองค์กร

การมาถึงของ Gen AI หรือ Generative AI ทำให้ภาคธุรกิจและหลากหลายอุตสาหกรรมถูก disrupt ครั้งยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรม ‘สร้างสรรค์’ ไม่ว่าจะเป็นงานเขียน งานภาพ งานวิดีโอ หรือแม้แต่งานเพลงก็ตามที

ถึงแม้จะมีข้อโต้เถียงต่าง ๆ มากมายในวงการงานสร้างสรรค์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจำนวนผลงานสร้างสรรค์ที่เกิดจาก Gen AI เกิดขึ้นมากมายจนล้นในท้องตลาด จนมีคำพูดที่ว่า “Gen AI จะเข้ามาแทนที่ศิลปินหรือผู้ผลิตงานสร้างสรรค์ได้ 100%” เพราะสามารถทำงานได้เร็วและถูกกว่าศิลปินที่เป็นมนุษย์ 

แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลากหลายงานวิจัยบ่งชี้ว่า…

“Gen AI กำลังลดและทำลายความสร้างสรรค์ของมนุษย์”

แต่ก่อนที่เราจะเข้าใจว่าการมาของ Gen AI จะทำลายความสร้างสรรค์ของมนุษย์ได้อย่างไร เราอาจจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Gen AI มีความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างไร? 

หลักการทำงานเบื้องต้นของ Gen AI

Generative AI เกิดจากการรวมตัวของคำว่า Generative + AI โดย Generative แปลว่า “เกี่ยวกับการสร้าง” หรือ “ทำให้เกิด” รวมกับคำว่า AI หรือปัญญาประดิษฐ์ ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลียนแบบสมองหรือกระบวนการคิดของมนุษย์ได้ ดังนั้น Generative AI จึงหมายถึงปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ขึ้นมาจากข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งต่างจาก AI ทั่วไปที่จะถูกออกแบบเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้ว และมักมีข้อจำกัดในการใช้งานแต่ละด้าน 

แต่ไม่ว่าจะ AI หรือ Gen AI  สิ่งสำคัญนอกเหนือจากระบบของการทำงานแล้วคือ Input หรือข้อมูลที่ป้อนเข้าไปในระบบเพื่อสร้างสรรค์ข้อมูลสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา ยิ่งข้อมูลมีความหลากหลาย หรือสร้างสรรค์มากขึ้นเท่าไหร่ Gen AI ก็จะสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้มากขึ้นเท่านั้น 

จึงสรุปได้ว่าสิ่งที่ Gen AI สร้างสรรค์ได้คือข้อมูลหรือ Input จากมนุษย์ แต่ในปัจจุบันที่มนุษย์ทุกคนหันไปทำงานสร้างสรรค์ผ่าน Gen AI ทำให้ Input ของ Gen AI นั้นน้อยลงและเป็นสิ่งเดิมซ้ำไปมา จึงทำให้ผลงานที่ Gen AI สร้างสรรค์ออกมาทำให้เกิดความซ้ำซากและจำเจ ไม่สร้างสรรค์เหมือนเดิมอีกต่อไป 

โดยจากงานวิจัย “Will Large-scale Generative Models Corrupt Future Datasets?” ได้มีการเปรียบเทียบภาพช้างในชีวิตจริง (ด้านซ้าย) และภาพของช้างที่ถูกสร้างขึ้นโดย Gen AI (ด้านขวา) จะเห็นได้ภาพช้างที่ถูกสร้างขึ้นโดย Gen AI ทั้งหมดจะมีความคล้ายคลึงและซ้ำกันอย่างมีนัยสำคัญ ยังไม่รวมความผิดภาพที่เกิดขึ้นในภาพของ Gen AI ไม่ว่าจะเป็นจำนวนและตำแหน่งของอวัยวะของช้างในภาพ

การเปรียบเทียบช้างในชีวิตจริง และช้างที่ถูกสร้างขึ้นโดย Gen AI ที่มา: researchgate.net

นอกเหนือจากระบบแล้ว Gen AI กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ในการใช้ความคิดสร้างสรรค์และการแก้ปัญหาด้วยเช่นกัน

ผลกระทบของ Gen AI ต่อความคิดสร้างสรรค์และทักษะการแก้ไขปัญหา 

 

มหาวิทยาลัย Stanford – “Evaluating the Practical Impact of Generative AI on Ideation and Team Problem Solving” – ได้ทำการวิจัยเรื่องสัมพันธ์ของความสามารถในการแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และการใช้ Gen AI tools ในองค์กร โดยทีมวิจัยได้ทำการวิจัยใน 4 องค์กร ซึ่งในแต่ละองค์กรจะได้รับ “โจทย์ปัญหาทางธุรกิจ” และในแต่ละองค์กรจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม

  1. กลุ่มที่แก้ไขปัญหาโดยไม่ใช่เครื่องมือ Gen AI
  2. กลุ่มที่แก้ไขปัญหาโดยใช้เครื่องมือ Gen AI

คำตอบจากแต่ละกลุ่มทดลองจะได้รับการตรวจสอบโดย “เจ้าของปัญหา” ซึ่งเป็นตัวแทนจากแต่ละบริษัท โดยแต่ละคำตอบจะถูกแบ่งเกรดจาก A (Highly Compeling; น่าสนใจมาก) ถึง D (Not worth pursuing; ไม่คุ้มค่าที่ที่จะลองทำ) โดยที่เจ้าของปัญหาจะไม่รู้ว่าคำตอบที่ได้มาจากแต่ละกลุ่มใช้เครื่องมือ Gen AI หรือไม่ 

“Generative AI helped workers avoid awful ideas, but it also led to more average ideas” – “เครื่องมือ Gen AI ช่วยให้พนักงานเลี่ยงไอเดียที่แย่ได้ แต่ก็ทำให้เกิดแต่ไอเดียธรรมดา ๆ เช่นกัน”

ผลลัพธ์จากการทดลองพบว่ากลุ่มที่ใช้ Gen AI ในการทำงานสามารถสร้างไอเดียได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้ Gen AI เพียงแค่ 8% และในส่วนของคุณภาพไอเดียนั่น กลุ่มที่ใช้ Gen AI สร้างไอเดียเกรด D ได้ออกมาน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ใช่เครื่องมือ 7% แต่ในส่วนที่น่าตกใจคือกลุ่มที่ใช้ Gen AI สามารถผลิตไอเดียเกรด A ได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ใช้ Gen AI เพียงแค่ 2% เท่านั้น

กราฟเปรียบเทียบคุณภาพไอเดียระหว่างกลุ่มทดลองที่ใช้
และไม่ได้ใช้เครื่องมือ Gen AI ที่มา: docsend.com

นอกเหนือจากผลลัพธ์เชิงคุณภาพและปริมาณของไอเดียที่ได้มาจากกลุ่มทดลองแล้วนั่น นักวิจัยได้สอบถามถึงความมั่นใจในคุณภาพไอเดียของตัวเอง โดยทีมที่ใช้ Gen AI มีความมั่นใจในไอเดียตัวเองมากกว่าถึง 21% จึงทำให้เห็นได้ว่าความรู้สึกมั่นใจและผลลัพธ์จากการใช้ Gen AI นั่นไม่สอดคล้องกัน

จะเห็นได้ว่าการใช้ Gen-AI สามารถส่งผลกับความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการแก้ปัญหาได้จริง แล้ว Manager สามารถกู้สถานการณ์นี้ได้อย่างไร?

บทบาทของ Manager ในการปลุกความคิดสร้างสรรค์คนในองค์กร 

  1. ตั้งคำถามให้เป็น รู้ให้ชัดว่าต้นตอของปัญหาคืออะไร

Gen AI โดยทั่วไปถูกออกแบบให้ตอบคำถาม “กลาง ๆ ” เช่นถ้าเราถาม Gen AI ว่า ฉันเห่าเหมือน…? มีความเป็นไปได้สูงมากว่า Gen AI จะตอบว่า “หมา” ซึ่งถ้าต้องการคำตอบที่นอกกรอบ Gen AI อาจจะไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควรดังนั้น Manager ต้องตั้งคำถามให้เป็น รวมถึงสามารถสอนให้คนในทีมตั้งคำถามที่สามารถตอบโจทย์กับปัญหาของเราได้อย่างแท้จริง รวมไปถึงการศึกษารายละเอียดและหา insight ของปัญหาให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะใช้เครื่องมือใด ๆ ในการแก้ปัญหา 

  1. สร้างพื้นที่สร้างสรรค์ไอเดียก่อนใช้เครื่องมือ 

ปัญหาของการใช้ Gen AI คือความไม่หลากหลายและความธรรมดาของไอเดีย ที่อาจจะไม่ตอบโจทย์ของธุรกิจที่ต้องการความคิดนอกกรอบจนไปถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ดังนั้นการมีพื้นที่ให้คนได้ลองคิดและสร้างไอเดียที่หลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ ก่อนที่จะใช้เครื่องมือในการช่วยเหลือ จึงเป็นสิ่งสำคัญในการปลุกความคิดสร้างสรรค์ของคนในองค์กรManager จึงต้องสามารถสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้คนภายในทีมหรือองค์กรกล้าที่จะสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ รวมไปถึงการสร้างความเชื่อมั่นในตัวเองให้กับคนในทีม ว่าเขาสามารถเป็นคนสร้างไอเดียหรือนวัตกรรมภายในองค์กรได้ไม่น้อยกว่าเครื่องมือ Gen AI 

(ที่มา: cookie_studio on freepik.com)

  1. สอน AI อย่างตั้งใจเหมือนสอนน้องใหม่ในทีม 

ถึงแม้ว่า Gen AI จะสามารถประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล และสร้างเนื้อหาใหม่ออกมาได้อย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ Gen AI จะไม่สามารถรู้ดีไปกว่าคนได้คือ “Insight” หรือข้อมูลเชิงลึกหรือบริบทขององค์กรได้เลย ดังนั้น Manager ต้องเข้าใจและสามารถสื่อสาร Insight ของธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ตนเองอยู่ได้ รวมไปถึงตรวจสอบข้อมูลที่ Gen AI ว่ามีความถูกต้องและเหมาะสมกับบริบทขององค์กรของเราหรือไม่ 

  1. มอง Gen AI เป็นเพื่อนคู่คิด ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 

จากวิจัยของมหาวิทยาลัย Stanford กล่าวว่าคำตอบที่ได้เกรด A จากกลุ่มที่ใช้เครื่องมือ Gen AI มักจะเป็นคำตอบที่เกิดจากบทสนทนาระหว่างกลุ่มทดลองกับ Gen AI ไม่ใช่คำตอบแรกที่มาจาก Gen AI ทันที  ในหลาย ๆ ครั้งเรามักจะใช้คำตอบแรกที่มาจาก Gen AI ทันที ซึ่งส่งผลกระทบให้เกิด  Einstellung effect หรือทฤษฎีทางจิตวิทยาที่เราจะรู้สึกยึดติดกับคำตอบแรกหรือสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จนไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้ Manager ต้องรู้จักที่จะตั้งคำถามรวมไปถึงท้าทายความเชื่อหรือคำตอบตรงหน้า และสามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานภายในทีมที่มจะพัฒนาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิมเสมอ 

  1. หาคนนอกช่วยตัดสินใจไอเดียของเรา 

โดยปกติเวลาที่องค์กรต้องการสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ เรามักจะคิด สรุป รวมไปถึงประเมินผลแค่ภายในทีม และในหลาย ๆ ครั้งเรามักจะหลงลืม “ปัจจัยภายนอก” ที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมกับไอเดียหรือนวัตกรรมของเรา Manager จึงต้องรู้ภาพรวมของธุรกิจรวมไปถึง stakeholder ภายในองค์กร สามารถสื่อสารนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้น การขอความช่วยเหลือ จนไปถึงการตั้งคำถามเพื่อให้ได้คำตอบที่สร้างคุณค่าให้กับไอเดียและธุรกิจได้อย่างแท้จริง

บทสรุป

Gen AI สามารถสร้างไอเดียใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ Gen AI ยังคงสู้มนุษย์ไม่ได้ในเรื่องของความหลากหลายและความสร้างสรรค์ของไอเดีย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ Gen AI ไม่มี Insight ขององค์กรรวมไปถึงอุตสาหกรรม ณ ปัจจุบัน 

ดังนั้น Manager จึงมีบทบาทสำคัญในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ภายในองค์กร Manager ต้องรู้บริบทของธุรกิจ มีทักษะในการวิเคราะห์และการตั้งคำถาม และที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสารและสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับคนในทีมในการสร้างสรรค์ไอเดียและนวัตกรรมให้กับองค์กรได้ 

======================================

หลักสูตร Manager of The Future by Disrupt ออกแบบเพื่อ Middle Manager และ Senior Manager ที่ต้องการ Reskill และ Upskill ในยุค AI Disruption ครอบคลุมทั้ง Business Acumen และ People Management ตอบโจทย์ในวันที่ธุรกิจและคนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

สมัครเลยวันนี้ รับราคาพิเศษ! ค่าธรรมเนียมหลักสูตร Early Bird ราคา 48,000 บาท
*เพียงสมัครภายใน 30 เมษายน 2567 นี้ สมัครเรียน: https://bit.ly/43eL2LK

````````````````````````````````````````````

  • เรียน Onsite ทุกวันศุกร์และเสาร์ 4 ครั้ง
  • เวลา 9.00 - 17.00 น. ณ โรงแรมชั้นนำในกรุงเทพมหานคร
  • วันศุกร์ และเสาร์ ที่ 5-6 และ 12-13 กรกฎาคม 2567 + Company Visit วันที่ 18 กรกฎาคม 2567

````````````````````````````````````````````

สอบถามเพิ่มเติม
‍LINE: @disruptignite
Email: all@disruptignite.com
Tel: 095-164-6056 ยูกิ, 085-098-1299 บีบี

ที่มาบทความ:

Update ความรู้จาก Disrupt ได้ที่ช่องทาง