วัฒนธรรมองค์กรคืออะไร? เคล็ดลับที่คู่แข่งเลียนแบบไม่ได้

คำว่าวัฒนธรรมองค์กรถูกนิยามด้วยความหมายที่แตกต่างกันในหลากหลายมุมมองไม่ว่าจะเป็นความหมายในเชิงธุรกิจ ความหมายในเชิงจิตวิทยาองค์กร และอื่น ๆ แต่โดยสรุปสั้น ๆ คนมักให้คำนิยามคำว่าวัฒนธรรมองค์กรว่า “เป็นพฤติกรรมของพนักงานภายในองค์กรเมื่อเจ้านายไม่อยู่” ซึ่งถือเป็นคำนิยามที่ครอบคลุมและอธิบายคำว่าวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างตรงไปตรงมา
จะเห็นได้ว่าแม้วัฒนธรรมองค์กรจะเป็นสิ่งที่อธิบายความหมายได้ยากแต่เป็นเบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรชั้นนำระดับโลกมากมาย เช่น วลีที่ว่า “เสรีภาพที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ (Freedom and Responsibility)” ประโยคสั้น ๆ ที่หากคุณเป็นคนที่สนใจในเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรจะต้องเคยได้ยิน เพราะเป็นประโยคสุดฮิตที่อธิบายวัฒนธรรมองค์กรของหนึ่งในองค์กรที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกและไม่มีใครไม่รู้จักอย่าง Netflix
Highlight
- วัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture) คือ ค่านิยม ความเชื่อ และพฤติกรรมที่คนในบริษัทปฏิบัติร่วมกัน เปรียบเสมือน "DNA" หรือ "นิสัย" ขององค์กรนั้น ๆ
- ทำไมถึงสำคัญ? เพราะวัฒนธรรมองค์กรเป็นตัวแปรหลักในการดึงดูดคนเก่ง (Talent) ช่วยรักษาพนักงานให้อยู่นาน และเป็นรากฐานความสำเร็จที่คู่แข่งลอกเลียนแบบไม่ได้
- วิธีสร้างวัฒนธรรมที่ดีประกอบด้วยหลากหลายส่วนเริ่มจากผู้นำที่เป็นแบบอย่าง, เปิดใจรับฟัง Feedback, ชื่นชมพนักงาน, จัดกิจกรรม Team Building สม่ำเสมอ และสนับสนุนการเรียนรู้
- ในบทความนี้ยังกล่าวถึงวัฒนธรรมองค์กรที่คนรุ่นใหม่มองหา ไม่ว่าจะเป็นความยืดหยุ่นในการทำงาน (Hybrid/Remote), ความเท่าเทียม, การวัดผลที่เนื้องานจริง (Result-oriented) และโอกาสในการเติบโต

วัฒนธรรมองค์กรคือค่านิยม ความเชื่อ ทัศคติ กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ที่คนในองค์กรยึดถือร่วมกันและส่งผลให้เกิดพฤติกรรมที่ประพฤติร่วมกันภายในองค์กร วัฒนธรรมองค์กรเป็นตัวบ่งชี้ถึงปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างองค์กรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เช่น พนักงาน ลูกค้า ผู้จัดจำหน่าย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เป็นต้น
วัฒนธรรมองค์กรไม่ใช่แค่ประโยคหรือนโยบายที่ออกประกาศผ่านลายลักษณ์อักษร แต่วัฒนธรรมองค์กรสามารถสำรวจได้ผ่านพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของพนักงาน เช่น วิธีการทำงานร่วมกันภายในทีม (หรือ ทีมเวิร์ค) วิธีการที่ผู้นำตอบสนองต่อปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับองค์กร
ความสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรนั้นมีมากกว่าที่คิด เพราะมันคือรากฐานของทุกอย่างในบริษัท วัฒนธรรมองค์กรที่ดี จะช่วยดึงดูดคนเก่งๆ ให้เข้ามาร่วมงาน และที่สำคัญคือช่วยรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรได้นานขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเรื่องของ Employee Value Proposition หรือคุณค่าที่องค์กรมอบให้พนักงาน หากวัฒนธรรมในองค์กรดีพนักงานก็จะมีความสุขและอยากส่งมอบคุณค่าดี ๆ กลับคืนสู่บริษัท
ในทางตรงกันข้าม หากองค์กรมี Toxic Culture หรือ สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษ เต็มไปด้วยการเมือง การนินทา หรือการกดดันที่ไม่สร้างสรรค์ ก็จะทำให้พนักงานหมดไฟและลาออกในที่สุด ดังนั้น วัฒนธรรมขององค์กร จึงเป็นตัวชี้วัดความยั่งยืนของธุรกิจได้ดีที่สุด
หากจะกล่าวว่าวัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้และไม่มีวิธีการสร้างที่ชัดเจนก็คงไม่ถูกทั้งหมดเสียทีเดียว เพราะถึงแม้วัฒนธรรมองค์กรจะเป็นสิ่งที่อธิบายความหมายได้ยาก แต่จริง ๆ แล้วมีการกำหนดปัจจัยในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีจาก Harvard Business Review ที่ได้กล่าวถึงปัจจัยสำคัญทั้ง 6 ข้อที่ก่อตัวเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่สร้างความแตกต่างให้องค์กรของเราแตกต่างจากองค์กรอื่น ๆ
วิสัยทัศน์
วัฒนธรรมองค์กรที่ดีเริ่มต้นจากภาพเป้าหมายองค์กรที่ชัดเจน การมีวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ชัดเจนจะช่วยทำให้เห็นคุณค่าและสิ่งที่พนักงานให้ความสำคัญร่วมกัน วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนจะส่งผลกระทบต่อความคิดและการกระทำของคนในองค์กรต่อไป ที่ไม่ว่าจะคิดหรือตัดสินใจอะไรก็จะสามารถเชื่อมโยงการตัดสินใจนั้น ๆ เข้ากับวิสัยทัศน์ขององค์กรได้
ค่านิยม
ค่านิยมเปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของวัฒนธรรมองค์กรที่ผู้คนในองค์กรยึดถือร่วมกัน ค่านิยมคือสิ่งที่มีอิทธิพลและเป็นแนวทางในการคิดและปฏิบัติตนของคนในองค์กรเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ร่วมกัน เช่น องค์กรที่มีค่านิยมในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์และ Innovation จะสะท้อนออกมาในรูปแบบการทำงานแบบใหม่ ๆ หรือการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในตลาดตลอดเวลา
โดยค่านิยมไม่เพียงแค่บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรและให้พนักงานท่องจำอย่างเดียว การกระทำเช่นนี้จะทำให้ค่านิยมไม่มีชีวิตชีวาและไม่ถูกเติมเต็มเข้าไปภายในจิตใจของพนักงาน โดยองค์กรควรมีกระบวนการหรือกิจกรรมที่ช่วยปลูกฝังค่านิยมให้กับพนักงานด้วยเช่นกัน เช่นการสอดแทรกค่านิยมต่าง ๆ ผ่านระบบการทำงาน หรือกิจกรรมที่ทำร่วมกันอย่าง Team Building
ผู้คน
ไม่มีวัฒนธรรมใดเกิดขึ้นได้หากปราศจาก "คน" การคัดเลือกบุคลากรที่มีทัศนคติที่ดี และมีเคมีที่ตรงกับองค์กร (Culture Fit) จึงสำคัญมาก เพราะคนเหล่านี้จะเป็นผู้นำพาวัฒนธรรมให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า หากคนในองค์กรมีทัศนคติเชิงลบ ก็ยากที่จะสร้าง วัฒนธรรมองค์กรที่ดีได้
สถานที่
สภาพแวดล้อมทางกายภาพของบริษัทส่งผลต่อพฤติกรรมอย่างมหาศาล ในปัจจุบัน มีหลากหลายบริษัทที่เลือกใช้ออฟฟิศแบบเปิด (Open Plan) ที่ส่งเสริมการพูดคุยแลกเปลี่ยน ในขณะที่บางบริษัทยังเป็นออฟฟิศที่มีผนังกั้นสูงซึ่งอาจสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่เน้นความเป็นส่วนตัวและลำดับขั้น สถานที่ทำงานจึงเป็นเครื่องมือสื่อสารวัฒนธรรมที่จับต้องได้ที่สุด
การปฏิบัติ
ค่านิยมจะเป็นเพียงนามธรรมหากไม่มี "การปฏิบัติ" มารองรับ เช่น หากบริษัทบอกว่าให้ความสำคัญกับทีมเวิร์ค แต่ระบบการประเมินผลกลับให้รางวัลเฉพาะผลงานเดี่ยว พนักงานก็จะแข่งขันกันเองแทนที่จะร่วมมือกัน การปฏิบัติจริงจึงเป็นบทพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของวัฒนธรรมองค์กร
การสื่อสาร
ทุกองค์กรมีเรื่องเล่า หรือตำนานที่เล่าขานต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นประวัติการก่อตั้ง เรื่องราวความสำเร็จ หรือวิกฤตที่ผ่านมา เรื่องราวเหล่านี้ช่วยหล่อหลอมความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดความหมายของวัฒนธรรมองค์กรจากรุ่นสู่รุ่นได้ดีที่สุด

แม้แต่ละองค์กรจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่หากแบ่งตามหลักวิชาการ (Competing Values Framework) เราจะเห็นโครงสร้างของ วัฒนธรรมองค์กร แบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นและเหมาะกับธุรกิจที่ต่างกัน
วัฒนธรรมองค์กรแบบเครือญาติ (Clan Culture)
- ลักษณะเด่น: เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่มีความสัมพันธ์ดั่งคนในครอบครัว เน้นการทำงานเป็นทีม การมีส่วนร่วมและการดูแลซึ่งกันและกัน บรรยากาศมีความเป็นกันเองสูง
- ข้อดี: พนักงานมีความจงรักภักดีสูง มีความสุขในการทำงาน และมีการสื่อสารที่ดีเยี่ยม
- เหมาะกับใคร: องค์กรขนาดเล็ก ธุรกิจครอบครัว หรือองค์กรที่ต้องการความสามัคคีเป็นที่ตั้ง
วัฒนธรรมองค์กรแบบราชการ (Bureaucratic Culture)
- ลักษณะเด่น: เป็น Hierarchy Culture เน้นโครงสร้างที่ชัดเจน กฎระเบียบเคร่งครัด การทำงานเป็นขั้นตอน และมีการเคารพลำดับอาวุโส
- ข้อดี: มีความมั่นคงสูง คาดเดาผลลัพธ์ได้ง่าย มีมาตรฐานในการทำงานที่ชัดเจน ลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น
- เหมาะกับใคร: หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรขนาดใหญ่ที่เน้นความปลอดภัยและมาตรฐาน
วัฒนธรรมองค์กรแบบปรับตัว (Adaptability Culture)
- ลักษณะเด่น: วัฒนธรรมองค์กรแบบปรับตัว หรือ Adhocracy Culture เป็น Culture องค์กรที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความยืดหยุ่นสูง พร้อมรับความเสี่ยงเพื่อสร้างสิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา
- ข้อดี: ปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงของตลาดได้รวดเร็ว สร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ได้เสมอ
- เหมาะกับใคร: บริษัท Tech Startups, บริษัทโฆษณา หรือธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็ว
วัฒนธรรมองค์กรแบบมุ่งผลสำเร็จ (Achievement Culture)
- ลักษณะเด่น: เป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการแข่งขัน การบรรลุเป้าหมาย และผลกำไรเป็นหลัก ผู้คนในองค์กรจะถูกขับเคลื่อนด้วยความต้องการทำให้เป้าหมายสำเร็จไปด้วยกัน
- ข้อดี: องค์กรเติบโตเร็ว บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ดี (เช่นยอดขาย ยอดการเจริญเติบโตของผู้ใช้งาน) พนักงานกระตือรือร้น
- เหมาะกับใคร: ธุรกิจการเงิน การธนาคาร หรือฝ่ายขายที่ต้องการผลลัพธ์เชิงตัวเลขที่ชัดเจน
วัฒนธรรมองค์กรแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันโดยองค์กรสามารถเลือกใช้ได้ตามความความเหมาะสมโดยส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ขององค์กรว่ามีจุดมุ่งหมายในการดำเนินงานเป็นอย่างไร
การสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ไม่ใช่การออกคำสั่ง แต่เป็นการ "ปลูกฝัง" พฤติกรรม ซึ่งต้องอาศัยกระบวนการที่ต่อเนื่องและจริงจัง ดังนี้:
- มีผู้นำองค์กรที่แข็งแกร่ง: วัฒนธรรมองค์กรต้องเริ่มจากหัวเรือขององค์กร โดยผู้นำต้องใช้ทักษะภาวะผู้นำในการเป็นแบบอย่างที่ดี หากผู้นำต้องการให้พนักงานตรงต่อเวลา ผู้นำต้องมาให้เช้าที่สุด หากผู้นำต้องการความซื่อสัตย์ ต้องบริหารงานอย่างโปร่งใส การกระทำของผู้นำเสียงดังกว่าคำพูดเสมอ
- รับฟังความคิดเห็นของพนักงาน: วัฒนธรรมที่ดีคือวัฒนธรรมที่ทุกคนมีส่วนร่วม การเปิดช่องทางให้พนักงานแสดงความคิดเห็น จะช่วยให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่า และช่วยให้ผู้บริหารรู้ทันทีหากเริ่มมีสัญญาณของปัญหาภายใน
- มอบคำชื่นชมแก่พนักงาน: การชื่นชมเมื่อพนักงานทำพฤติกรรมที่สอดคล้องกับค่านิยม เป็นการเสริมแรงบวก (Positive Reinforcement) ที่ดีที่สุด มันเป็นการส่งสัญญาณให้ทั้งองค์กรรู้ว่า วัฒนธรรมองค์กรที่ดีในสายตาของบริษัทคืออะไร
- รักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงาน: ความสัมพันธ์ที่ดีคือกาวใจที่ยึดเหนี่ยวองค์กร โดยกิจกรรม Team Building ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่องค์กรมักเลือกใช้ และไม่ใช่แค่การพาพนักงานไปเที่ยว แต่เป็นการละลายพฤติกรรม สร้างความไว้วางใจ และส่งเสริม Teamwork ให้แข็งแกร่ง เมื่อพนักงานสนิทใจกัน การทำงานร่วมกันก็จะราบรื่นขึ้น
- สนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนา: องค์กรต้องแสดงให้เห็นว่าให้ความสำคัญกับการเติบโตของคน พนักงานจะรู้สึกผูกพันกับองค์กรที่ช่วยให้เขาเก่งขึ้น
- บริหารงานด้วยความยืดหยุ่น: ในยุคปัจจุบัน ความยืดหยุ่นคือกุญแจสำคัญ การยึดติดกับกฎระเบียบมากเกินไปอาจสร้างความอึดอัด การบริหารที่ยืดหยุ่นจะช่วยลดความเครียด และทำให้พนักงานกล้าที่จะคิดนอกกรอบมากขึ้น
- เน้นยำการดำเนินงานตามวัฒนธรรมองค์กร: ต้องสอดแทรกวัฒนธรรมเข้าไปในทุก Touchpoints ตั้งแต่กระบวนการสัมภาษณ์งาน (คัดกรองคนที่ใช่) การปฐมนิเทศ ไปจนถึงเกณฑ์การเลื่อนตำแหน่ง เพื่อให้ Company Culture คือวิถีชีวิตที่แท้จริง ไม่ใช่แค่สโลแกน

คนรุ่นใหม่ (Gen Y, Gen Z) ไม่ได้มองหาแค่งานที่เงินเดือนดี แต่พวกเขามองหา "ความหมาย" และ "คุณภาพชีวิต" ดังนั้น วัฒนธรรมในองค์กร ที่จะมัดใจพวกเขาได้ ต้องมีลักษณะดังนี้:
มีความเท่าเทียมกัน
พวกเขามองหาองค์กรที่เคารพความแตกต่าง ไม่แบ่งแยกเพศ อายุ หรือศาสนา และมีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน (Flat Organization) ที่เปิดโอกาสให้เด็กจบใหม่สามารถเสนอไอเดียต่อ CEO ได้
มีระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น
การเข้างาน 09.00 น. เลิก 18.00 น. อาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป การให้อิสระในการบริหารจัดการเวลา หรือการทำงานแบบ Hybrid Work คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ค่าอย่างมาก เพราะพวกเขาต้องการ Work-Life Balance ที่ดี
ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าชั่วโมงการทำงาน
ในปัจจุบันการวัดชั่วโมงการทำงานอาจไม่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่อีกต่อไป คนรุ่นใหม่มักมองหาองค์กรที่สามารถให้ “อิสระ” กับพวกเค้าได้ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถสร้างผลงานให้กับบริษัทได้ โดยวัฒนธรรมที่วัดผลที่ "ผลงาน" จริง ๆ จะช่วยดึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ออกมาได้มากที่สุด
เปิดโอกาสให้ผิดพลาด เรียนรู้ และแก้ไข
คนรุ่นใหม่มีความคิดสร้างสรรค์และอยากลองของใหม่ องค์กรต้องมีพื้นที่ปลอดภัย (Psychological Safety) ที่อนุญาตให้พวกเขาลองผิดลองถูกได้ โดยไม่ถูกลงโทษอย่างรุนแรง แต่เน้นการเรียนรู้จากความผิดพลาดแทน
ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
พวกเขาต้องการเก่งขึ้นตลอดเวลา องค์กรที่มีคอร์สเรียน มี Mentorship หรือสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาตนเอง จะเป็นที่ต้องการของ Talents รุ่นใหม่
Honda
มีปรัชญาพื้นฐานคือ "ความเคารพในปัจเจกชน" (Respect for the Individual) และ "ความจำ 3 ประการ" (The Three Joys) คือ ความสุขของผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้สร้าง สังเกตได้ว่าฮอนด้าให้ความสำคัญกับคนมาก จนกลายเป็นรากฐานที่ทำให้พนักงานทุ่มเทเพื่อสร้างนวัตกรรมยานยนต์
Disney
วัฒนธรรมของดิสนีย์คือการ "สร้างความสุข" ทุกคนในองค์กร ไม่ว่าจะตำแหน่งใด จะถูกเรียกว่า "Cast Member" หรือนักแสดง เพราะถือว่าทุกคนมีบทบาทในการสร้างโชว์ที่สมบูรณ์แบบ วัฒนธรรมที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้วนี้เองที่สร้างประสบการณ์ระดับโลก
Lineman Wongnai
ตัวแทนของ Tech Company สัญชาติไทย ที่มี Core Values โดดเด่นเรื่อง "Impact" (สร้างผลกระทบ) "Speed" (ความเร็ว) และ "Flexible" (ความยืดหยุ่น) สะท้อนภาพลักษณ์ขององค์กรที่พร้อมปรับตัว แข่งขัน และสนุกกับการทำงานหนักเพื่อผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ซึ่งดึงดูดคนรุ่นใหม่ไฟแรงได้มากมาย
สุดท้ายแล้ว วัฒนธรรมองค์กร เปรียบเสมือนบุคลิกภาพและจิตวิญญาณของบริษัท แม้คู่แข่งจะสามารถลอกเลียนสินค้า บริการ หรือกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณได้ แต่พวกเขาไม่สามารถลอกเลียน วัฒนธรรมขององค์กร และพลังของคนในทีมของคุณได้
การลงทุนลงแรงเพื่อ สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี จึงเป็นการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืนที่สุด ช่วยรักษาพนักงานที่มีคุณภาพและมองเห็นคุณค่าเดียวกันให้อยู่กับเรา และยังเปลี่ยนพนักงานธรรมดาให้กลายเป็น Talents ที่พร้อมพาทุกคนมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน
พร้อมที่จะยกระดับทีมของคุณหรือยัง? หากคุณต้องการเริ่มสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง วันนี้คุณอาจต้องเริ่มจากการสำรวจทักษะความเป็นผู้นำและวางแผนกิจกรรม Team Building ที่มีความหมาย เพื่อจุดประกายการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับองค์กรของคุณ
สามารถปรึกษาหลักสูตรหรือโปรแกรมที่เหมาะกับองค์กรของคุณได้กับทีม Disrupt Corporate Program ได้ไม่มีค่าใช้จ่าย!
ติดตามเราได้ที่
- Facebook: https://bit.ly/FBdisruptignite
- Line Official: https://bit.ly/disruptignite
- Email: all@disruptignite.com
